แม้จะมียอดตกหลังการปรับใหญ่ของ Facebok แต่ ATTN เพจวิดีโอที่โด่งดังขออยู่ต่อบนแพลตฟอร์มเดิม เพราะไม่ได้สนแค่ยอดวิว แต่สนใจยอดการมีส่วนร่วมต่อโพสต์ที่ยังดีอยู่ หลังจากนี้จะขยายไปทำรายการใหม่ๆ แต่ก็จะยังอยู่บน Facebook เหมือนเดิม
เพจ ATTN คืออะไร?
ATTN คือเพจสื่อสายวิดีโอชื่อดังใน Facebook ก่อตั้งมาในปี 2014 ขณะนี้มีผู้ติดตามอยู่กว่า 5.7 ล้านคน โด่งดังมาจากการทำวิดีโอที่มีประเด็นทางสังคมโดนใจคนรุ่นใหม่ เช่น ปัญหาเรื่องปืนในโรงเรียนของสหรัฐอเมริกา หรือประเด็นเรื่องคนอเมริกันรุ่นใหม่เป็นหนี้สูงจากการศึกษา
ATTN เติบโตมาจาก Facebook แทบจะ 100% ในแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Twitter หรือ Instagram มีการเข้าไปทำอยู่บ้าง แต่ถือว่าเติบโตน้อยมากทั้งในแง่ผู้ชมและรายได้ เมื่อเทียบกับ Facebook
Facebook ปรับอัลอริธึ่ม ยอดตก แต่ไม่สน
หลังจากที่ Facebook ปรับลดความสำคัญเพจ ต้องบอกว่า ATTN ได้รับผลกระทบไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา
- แต่ประเด็นคือ ATTN ไม่สนใจว่ายอดวิวจะตก เพราะตั้งแต่เริ่มต้นทำเพจมา ATTN จะสนใจอย่างเดียวว่ายอดการมีส่วนร่วมหรือยอด engagement ต่อโพสต์นั้นสูงหรือไม่
ถ้าไปเปิดดูยอด engagement ของ ATTN จะพบว่า แม้ Facebook จะปรับอัลกอริธึ่มใหม่ คนเห็นโพสต์น้อยลง แต่ยอดการมีส่วนร่วมของ ATTN ยังดีอยู่ คิดแล้วเดือนหนึ่งมียอด engagement อยู่ที่ประมาณ 5.33 ล้านคน แถมยังพุ่งขึ้นสูงถึง 0.24% หลังจากเดือนมกราคมที่มีการปรับใหญ่ของ Facebook เสียด้วยซ้ำ
ขออยู่ต่อบน Facebook แต่แตกโมเดลไปทำอย่างอื่นด้วย
Matthew Segal หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง ATTN เคยให้สัมภาษณ์ไว้ โดยชี้ให้เห็นชัดเลยว่า ATTN มองว่า Facebook บ้านหลักที่เติบโตมาและยังเติบโตต่อได้อีก และถ้าต้องย้ายไปทำบนแพลตฟอร์มก็ขอเดินออกจากธุรกิจนี้ไปเลยดีกว่า “เรายังต้องอยู่บน Facebook หรือไม่อย่างนั้นก็เจ๊งไปเลยดีกว่า” นอกจากนั้นเขายังเคยบอกด้วยว่า “การดึงผู้คนจาก Facebook เข้าไปสู่เว็บไซต์ของตัวเองเป็นกลยุทธ์ที่ห่วย แต่อยู่บน Facebook ทั้งหมดก็ไม่ใช่ว่าจะดีเช่นกัน”
- แต่ ATTN ยังยืนยันที่จะอยู่ต่อบน Facebook คำถามคือ ATTN จะทำอะไร?
Segal บอกว่า ATTN จะขยายไปทำตอนเทนต์เพื่อส่งขึ้น Watch ช่องทางวิดีโอของ Facebook (ที่สื่อหลายเจ้าในตะวันตกยังบ่นว่าทำเงินได้น้อยมาก) โดย ATTN จะทำรายการชื่อ “We Need to Talk” และ “America Versus” พร้อมทั้งบอกว่าโมเดลนี้จะทำเงินให้บริษัทคิดเป็นสัดส่วนถึง 30%
สรุป
ถือว่าเป็นการเดิมพันของ ATTN บน Facebook อีกครั้งหลังการปรับใหญ่เมื่อต้นปี แต่รอบนี้ ATTN จะทำมากกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ทำคลิปวิดีโอที่ทำอยู่ปกติบนแพลตฟอร์มเดิมเท่านั้น แต่จะขยายความแข็งแกร่งด้านคอนเทนต์ไปทำรายการใหม่ๆ บนช่องทางใหม่ เช่น Watch (ก็ของ Facebook อยู่ดี) และบนสื่อทีวีดังที่ได้กล่าวมา
ข้อมูล – Digiday [1], [2]
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา