การลงทุนมีความเสี่ยง ใช้ FVMR ค้นหาสุดยอดบริษัทน่าลงทุนกันเถอะ

หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จจากการลงทุน คือ การเลือกลงทุนในบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความสามารถในการแข่งขัน มีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ มีปัจจัยเร่งในการเติบโต และซื้อลงทุนในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดสำหรับการเลือกลงทุนที่บรรดาเซียนนักลงทุนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการค้นหาบริษัทน่าลงทุนจะมีวิธีการอย่างไรในการตัดสินใจ ต้องพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินอะไรประกอบบ้าง ผมได้ลองค้นหาข้อมูลใน Google แล้วไปพบกับ A.Stotz Investment Research ได้ทำการสรุปขั้นตอนง่ายๆ ในการคัดเลือกบริษัทที่น่าสนใจเอาไว้ เรามาดูกันเลย

fvmr-1

Dr. Andrew Stotz
Dr. Andrew Stotz

ทำความรู้จักกับ A.Stotz Investment Research

A.Stotz Investment Research เริ่มก่อตั้งโดย Dr.Andrew Stotz, CFA ผู้มีประสบการณ์ในสายงานด้านการเงินการลงทุนมากว่า 20 ปี ผู้คร่ำหวอดในสายงานนักวิเคราะห์ ที่มีรายงานการวิเคราะห์กลยุทธ์ของบริษัทต่างๆ มากมาย เคยเป็นหัวหน้าฝ่ายทีมวิจัยของ CLSA ประเทศไทยและเคยได้รับการโหวตให้เป็นนักวิเคราะห์หมายเลข 1 จาก Asiamoney Brokers Polls ในปี 2008-2009 และในปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานของ CFA Society Thailand ในปัจจุบัน A.Stotz investment research ให้คำแนะนำและบริการจัดพอร์ตการลงทุนในหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยจะเน้นการวิเคราะห์บริษัทเชิงลึก และมีหุ้นที่ติดตามอยู่ประมาณ 7,500 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2014)

how-we-select-stocks-using-fvmr-1-638
ที่มา: http://www.slideshare.net/andrewstotz/how-we-select-stocks-using-fvmr

FVMR 4 องค์ประกอบในการค้นหาบริษัทน่าลงทุน

ค้นหาหุ้นที่น่าสนใจด้วย FVMR (Fundamental, Valuation, Momentum, Risk)

Fundamental: ปัจจัยพื้นฐานสามารถดูได้จากโครงสร้างและแนวโน้มการทำกำไรของบริษัท ซึ่งสะท้อนความสามารถของผู้บริหารในการจัดการทรัพยากรของบริษัท ในการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานสามารถดูได้จากอัตราส่วนทางการเงิน เช่น ROA, ROE, ROIC, Net Margin เป็นต้น

Valuation: มูลค่าของกิจการที่ทำการประเมินจากตัวบริษัทเอง และมูลค่าในเชิงเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม เพื่อค้นหาและลงทุนในบริษัทพื้นฐานดีราคาไม่แพง โดยพิจารณาจาก PE, PBV, EV/EBITDA เป็นต้น

Momentum: มีปัจจัยเร่งที่ทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นหรือ กำลังเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อสร้างโอกาส ทำกำไรในหุ้นพื้นฐานดีราคาถูก และ ช่วยป้องกันไม่ให้ติดกับดักหุ้นประเภท ถูกเรื้อรัง โดยพิจารณาจาก Revenue Growth เป็นต้น

Risk: คัดกรองบริษัทที่มีความเสี่ยงทางการเงินต่ำ เพื่อให้พอร์ตการลงทุนไม่เสี่ยงจนเกินไป พอร์ตการลงทุนบางส่วนจะอยู่ในหุ้นปันผลเพื่อสร้างกระแสเงินสดในระยะยาว โดยพิจารณาจาก Current Ratio, Net Debt เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในการค้นหาบริษัทที่น่าลงทุน นอกจากพิจารณาจากปัจจัย FVMR ที่กล่าวมาแล้ว ผู้ลงทุนเอง ควรเลือกบริษัทที่มีสินค้าหรือบริการที่ครองส่วนแบ่งการตลาดและอัตราการเติบโตสูง (STAR) เพราะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจที่ดีกว่าบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

สำหรับท่านที่สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมฉบับเต็มสามารถเข้าไปที่ http://astotz.com/ จะพบกับงานวิจัยที่นำมาอ้างอิง ชื่อ How We Select Stocks Using FVMR ในส่วนข้อมูล Publication นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกด้วย

หลังจากทำการเลือกบริษัทที่น่าสนใจ ก็ถึงเวลาที่จะเข้าไปศึกษาบริษัทเหล่านั้นในเชิงลึก และนำไปสู่การจัดพอร์ต และปรับพอร์ตตามการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลแทนจากการลงทุนต่อไป เราจะเห็นได้ว่า กระบวนการ ขั้นตอนต่าง ๆ ผู้ลงทุนต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก ในประเทศไทย มีกองทุนที่ลงทุนโดยการประยุกต์ใช้หลักการที่ว่ามาในการลงทุนหรือไม่ ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร วันนี้ Brand Inside ขอพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับกองทุนรวม ONE-STARS กองทุนที่เลือกหุ้นน่าสนใจโดยประยุกต์ใช้หลักการ FVMR

กองทุนเปิด วรรณ สตาร์ ซีเล็คชั่น ฟันด์ (ONE STAR SELECTION FUND): ONE-STARS

นโยบายการลงทุน: เป็นกองทุนรวมผสม โดยกองทุนสามารถเลือกลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และตราสารทางการเงินอื่น ๆโดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามสถานการณ์ที่เห็นสมควร

กลยุทธ์การลงทุน: ใช้นโยบายการลงทุนเชิงรุกโดยมุงหวังในการสร้างผลตอบแทนมากกว่าดัชนีชี้วัด โดยกองทุนจะทำการคัดเลือกหุ้นที่น่าสนใจผ่านการประยุกต์ใช้ FVMR และทำการเลือกลงทุนในหุ้น 20 บริษัทแรกที่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนสูง และทำการปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์

fvmr-4
ที่มา: เอกสาร Monthly Commentary “Opportunity to invest in top listed companies by 4 elements selection” บลจ.วรรณ 28 Feb 2015

ค่าธรรมเนียม

fvmr-5
ที่มา: Fund Fact Sheet 30 กันยายน 2559

พอร์ตการลงทุนในปัจจุบัน

ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 กองทุนมีการลงทุนในหุ้น 85.43% โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม อาหารและเครื่องดื่ม 21.58% กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 13.74%

fvmr-6
ที่มา: Fund Fact Sheet 30 กันยายน 2559

ผลการดำเนินงาน

กองทุน ONE-STARS ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน (วันที่ 9 มิถุนายน 2557) จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2559

ให้ผลตอบแทน -9.14% ต่ำกว่าผลการดำเนินงานของ SET Total Return Index: SET TRI (ผลตอบแทน SET Index เมื่อรวมปันผล) ที่สร้างผลตอบแทนได้ 9.54% หรือกล่าวได้ว่าผลการดำเนินงานที่ผ่านมาแพ้ตลาด(SET TRI)มากถึง 18%

fvmr-7
ที่มา: Fund Fact Sheet 30 กันยายน 2559

จากการดำเนินงานที่ไม่โดดเด่นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้กองทุนนี้ได้รับเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนไม่มาก สังเกตได้จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2559 อยู่ที่ประมาณ 107.6 ล้านบาทเท่านั้น (ข้อมูลจาก FIN App) อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะเวลาการลงทุนที่ผ่านมาเพียง 2 ปีเศษ อาจยังไม่สามารถสรุปว่า หลักการคัดเลือกหุ้นน่าสนใจด้วย FVMR จะช่วยให้ผู้ลงทุนประสบความสำเร็จในระยะยาวได้หรือไม่ เนื่องจากปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการลงทุนไม่ได้มีเพียงแต่ปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น หากท่านใดสนใจค้นหาข้อมูลประกอบการลงทุนท่านสามารถติดต่อ บลจ.วรรณ ได้โดยตรง

ในโอกาสต่อไป หากเราพบกองทุนรวมที่มีกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจอื่น ๆ เราจะนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้การลงทุนของท่านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

อ้างอิง:

1.How We Select Stocks Using FVMR: http://www.slideshare.net/andrewstotz/how-we-select-stocks-using-fvmr

2.ONE-STARS Fund Fact Sheet 30 กันยายน 2559: https://www.one-asset.com/wp-content/uploads/2014/05/ONE-STARS_FS17.pdf

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ณัฐ เลิศมงคล ที่ปรึกษาการเงินอิสระ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินส่วนบุคคล ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของแต่ละบุคคล ภารกิจของ ณัฐ ใน BrandInside.asia คือ การนำทุกท่านเข้าสู่โลกของการวางแผนการเงินส่วนบุคคล โดยการให้ความรู้พร้อมกับการแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อยู่ในตลาด ให้ท่านได้เห็นถึงข้อดี โอกาส ความเสี่ยง เพื่อให้ทุกท่านได้ใช้ประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสม