บมจ. แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ หรือชื่อเดิม เอเชียซอฟท์ ประกาศลงทุนเข้าถือหุ้น 27% ใน บิ๊กส์แบง ทิออรี่ย์ บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีเมตาเวิร์สของไทย หวังช่วยบริษัทดังกล่าวสร้างรายได้ปี 2023 แตะ 50 ล้านบาท เสริมแกร่งช่องทางรายได้ใหม่ หลังร่วม บิทคับ บุกตลาด Web 3.0
แอสเฟียร์ ย้ำ เมตาเวิร์ส ยังมีโอกาสเติบโต
กิตติพงศ์ พฤกษอรุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Blockchain & Innovation Technologies บมจ. แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ เล่าให้ฟังว่า ภาพรวมตลาดเมตาเวิร์สยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยในตลาดโลกในปี 2022 มีคาดการณ์มูลค่าตลาดที่ 58,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030
“ในปี 2026 คาดการณ์ว่า ประชากรโลก 25% จะเข้าใช้งานเมตาเวิร์สบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างน้อยวันละ 1 ชม. และถึงเมตาเวิร์สถ้ามองในมุมสินทรัพย์ดิจิทัลมันจะอยู่ในช่วงขาลง แต่ผมเชื่อว่าถ้ามองเมตาเวิร์สเป็นเครื่องมือในการทำตลาด หรือ Marketing Tools เทคโนโลยีดังกล่าวยังเป็นขาขึ้นอยู่”
ล่าสุดเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในตลาดนี้ แอสเฟียร์ ได้เข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัท บิ๊กส์แบง ทิออรี่ย์ จำกัด บริษัทพัฒนาเมตาเวิร์สโดยคนไทยในสัดส่วน 27% แต่ไม่เปิดเผยมูลค่า พร้อมคาดการณ์รายได้ของบริษัทดังกล่าวในปี 2023 ที่ 50 ล้านบาท และในปี 2024 อาจเติบโตแตะ 100 ล้านบาท
พา เมตาเวิร์สไทย ติดเครื่องบุกอาเซียน
แอสเฟียร์ มีแผนนำเมตาเวิร์สที่พัฒนาโดย บิ๊กส์แบง ทิออรี่ย์ ออกไปให้บริการในภูมิภาคอาเซียนโดยอาศัยความเชี่ยวชาญในตลาดนี้ของบริษัทที่ให้บริการเกมต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้เกือบทุกประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาเมตาเวิร์สของบริษัทเพื่อเชื่อมต่อกับผู้สมัครเล่นเกมมากกว่า 180 ล้านบัญชีในอาเซียน
ทั้งนี้ บิ๊กส์แบง ทิออรี่ย์ เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีเมตาเวิร์สเมื่อ 3 ปี ก่อน หากนับถึงปัจจุบันมีการลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท และมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจเช่น หัวเว่ย และเทนเซนต์ เพื่อใช้งานคลาวด์ในการประมวลผล และเริ่มมีการเจรจากับภาคธุรกิจต่าง ๆ เพื่อนำเทคโนโลยีเมตาเวิร์สของบริษัทเป็นเครื่องมือในการทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย
“บิ๊กส์แบง ทิออรี่ย์ มีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และบริษัทพลังงานที่สนใจ รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งภายในปี 2023 จะได้เห็น 1 ดีลเป็นอย่างน้อย และบริษัทดังกล่าวจะพัฒนาแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สให้เป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และเติบโตไปพร้อมกับบริษัท”
ต่อยอดการลงทุนในธุรกิจ Web 3.0
ในปี 2022 แอสเฟียร์ มีการประกาศความร่วมมือกับ บิทคับ เพื่อจัดตั้งบริษัท คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ร่วมกัน เน้นบุกตลาด Web 3.0 และสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ โดยคาดว่าจะ เสนอขาย Utility Token แก่สาธารณะ หรือ ICO ได้ภายในปี 2023 และบันทึกเป็นรายได้ในปี 2024
“การทำแบบนี้ทำให้ แอสเฟียร์ หรือเอเชียซอฟท์เดิม ไม่ได้มีภาพลักษณ์เป็นผู้ให้บริการเกมเพียงอย่างเดียว แต่กลายเป็น Digital Tech Services เต็มตัว เมื่อผนวกกับแผนพิจารณาลงทุนใน Marketing Technology อื่น ๆ เพิ่มเติม ก็ช่วยให้เพิ่มช่องทางรายได้ได้ใหม่ ๆ มากขึ้น”
สิ้นไตรมาส 1 ปี 2023 แอสเฟียร์ มีรายได้รวม 320 ล้านบาท ลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2022 กำไรสุทธิ 43 ล้านบาท ลดลง 58% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดย 48% ของรายได้มาจากประเทศสิงคโปร์ ส่วนในประเทศไทยอยู่ที่ 24%
เปิดเกมมือถือต่อเนื่องดันรายได้
กิตติพงศ์ เสริมว่า ในสิ้นปี 2023 บริษัทจะเปิดให้บริการเกมเพิ่ม 8-9 เกม เน้นไปที่เกมมือถือ มีให้บริการทั้งภูมิภาคอาเซียน และบางประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากเกมมือถือให้มากขึ้นจากสิ้นไตรมาส 1 ปี 2023 รายได้จากเกมมือถืออยู่ที่ 17% ส่วนที่เหลือมาจากเกมบนพีซี โดยบริษัทให้บริการเกมบนพีซี 19 เกม และเกมมือถือ 9 เกม
ในทางกลับกัน ช่วงเดือน มี.ค. 2023 บริษัทมีการแจ้งแผนเตรียมให้บริการแพลตฟอร์ม Astronize หรือ Hybrid Web 3.0 Game Platform พร้อมเดินหน้าให้บริการเกมในรูปแบบ Free-to-Play & Earn และอื่น ๆ หลังจาก ICO เสร็จสิ้น
แอสเฟียร์ ตั้งเป้าหมายจะมีผู้ใช้บริการบนแพลตฟอร์ม Astronize ทันทีหลังจากเปิดตัว 2 เกมไม่น้อยกว่า 5 แสนคน และเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1 ล้านคนภายใน 1 ปีด้วยแผนการเปิดตัวเกมใหม่เพิ่มเติมทุกไตรมาส และตั้งเป้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีนับจากเปิดให้บริการ
อ้างอิง // Asphere
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา