ASP เผยธุรกิจกำไรพุ่งจากครึ่งปีหลัง อสังหา-ค้าปลีก-ก่อสร้าง ฯลฯ

ใครๆ ก็อยากรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ยิ่งสำหรับนักลงทุนถ้าเรารู้ปัจจัยต่างๆ จะทำให้เราประเมินความเสี่ยงได้ดีขึ้น ฝั่งบจ. เอเชียพลัส (ASP) เลยออกมาเล่าให้ฟังว่าครึ่งปีหลังจากนี้มีอะไรต้องจับตามองบ้างในตลาดเงินตลาดทุน

Businessman working with notebook and modern laptop with business graph chart.business marketing,success and ideas concept

ครึ่งปีหลังธุรกิจไหนผลกำไรรุ่งเพราะอะไร ?

ฝ่ายวิจัยบจ. เอเชียพลัส (ASP) บอกว่า ครึ่งปีแรกถือว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) ทำผลงานได้ดีเพราะมีกำไรเกินครึ่งของเป้าหมายที่ ASP คาดการณ์ไว้ (กำไรบจ.ปี 2018 คาดว่าอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท)

ซึ่งแม้ว่าครึ่งปีแรกบางอุตสาหกรรมกำไรจะยังไม่ถึงครึ่งที่มองไว้ทั้งปี แต่บางอุตสาหกรรมจะมีปัจจัยหนุนช่วงปลายปีให้รายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีที่เหลือ

โดยฝ่ายวิจัยเรา เลือกวิเคราะห์หุ้นในหมวดธุรกิจต่างๆ สรุปมาให้ดูกันเริ่มกันที่ ธุรกิจจค้าปลีกที่ครึ่งแรกปีนี้ทำกำไรไปแล้ว 44% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี 2018 ซึ่งครึ่งปีหลังถือเป็นช่วงฤดูการจับจ่ายใช้สอย และช่วงท่องเที่ยวที่จะมีนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามาหลังจากเกิดเรื่องเรือล่มไป

  • ซึ่งหุ้นที่กำไรจะดีขึ้น เช่น บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน)-Beauty, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)-BJC
ภาพจาก Shutterstock

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างครึ่งปีหลังน่าจะทำกำไรได้ 73% ของคาดการณ์กำไรทั้งปีหลังจากครึ่งปีแรกทำกำไรไปเพียง 27% เนื่องจากครึ่งปีหลังจะมีการรับรู้รายได้จากยอดที่ขายไปก่อนหน้า (BackLog) และหากการลงทุนของภาครัฐไม่เลื่อนออกไป

  • หุ้นที่น่าจะดีขึ้นคือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)-CK, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)-STEC 

กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ปกติแล้วอุตสาหกรรมนี้รายได้และกำไรจะเติบโตสูงสุดในไตรมาส 3 ซึ่งส่งผลให้ไตรมาส 4 ของทุกปีรายได้ตกลงเล็กน้อย

  • แต่หุ้นที่น่าจะเติบโตในครึ่งปีหลัง ได้แก่ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน)-Hana ที่ครึ่งปีหลังน่าจะมีกำไร 58% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี, บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)-KCE ที่ครึ่งปีหลังน่าจะทำกำไรได้ 55% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี
ภาพจาก Shutterstock

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ไตรมาส 4 ของทุกปีถือเป็นช่วงที่มีการโอนทรัพย์สินกันมากที่สุด เลยมักจะมีโปรโมชั่น เพื่อปิดยอดขายทั้งปี ที่สำคัญครึ่งปีแรกทำกำไรไป 38% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี ดังนั้นครึ่งปีหลังคาดว่าจะทำกำไรได้ถึง 68% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี

  • โดยมีหุ้นที่กำไรจะโต ได้แก่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)-ANAN, บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)-LPN, บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)-PSH, บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)-SC, บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)-SPALI

กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ทุกสิ้นปีนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จะมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ กอง REIT ต่างๆ ทำให้มีรายได้พิเศษทุกปี 

  • มีหุ้นที่กำไรจะโตได้แก่ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)- AMATA, บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)-WHA
ภาพจาก shutterstock

เปิดปัจจัยบวกครึ่งปีหลังหวังการเลือกตั้งมา ก.พ.-พ.ค. 2019

ครึ่งปีหลังเรียกว่าปัจจัยบวกน่าจะมาจากเรื่องการเมือง เพราะเราเชื่อว่าจะมีการประกาศการเลือกตั้งในช่วง เดือน ก.พ.-พ.ค.2019 ทำให้ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยมีภาพที่ดีขึ้น

นอกจากนี้เรื่องการลงทุนของภาครัฐ ยังมีการเร่งรัดให้ทันกับคณะรัฐบาลนี้ เช่น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน ฯลฯ แต่บางโครงการขนาดใหญ่ที่ยังต้องศึกษา อาจจะต้องรอคณะรัฐบาลชุดต่อไป

ส่วนปัจจัยนอกประเทศยังมีความหวังว่า เรื่องสงครามการค้า (Trade War) ทั้งสหรัฐฯ และจีน จะสามารถเจรจาประนีประนอมกันได้

ภาพจาก Shutterstock

เผยปัจจัยลบมาจากนอกประเทศ Trade War-ค่าเงิน

ส่วนใหญ่ครึ่งปีหลังนี้ต้องจับตามองปัจจัยจากนอกประเทศ ทั้งเรื่อง Trade War ที่น่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ในเคสที่แย่หน่อยคือ เศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลก รวมถึงไทยอาจะได้รับผลกระทบต่อผลประกอบการ

ขณะที่เรื่องวิกฤตค่าเงินของตุรกี ไม่ได้มีผลโดยตรงกับประเทศไทยเพราะเรามีการค้าด้วยน้อยมาก 

ขณะที่ประเทศส่งออกอย่างเราต้องจับตามองเรื่อง ค่าเงินบาทด้วย แต่ทิศทางตอนนี้ถึงสิ้นปี มองว่าค่าเงินบาทจะอยู่ในทิศทางอ่อนค่าและทรงตัวมากกว่า หากสิ้นปีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยเลือกที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะชะลอการอ่อนค่าของค่าเงินบาท แต่จากความเสี่ยงต่างๆทั่วโลกก็ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีแนวโน้มแข็งค่า ส่งผลให้บาทอยู่ในโทนอ่อนค่านั่นเอง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา