ผลสำรวจของ CNBC Travel พบว่า นักท่องเที่ยวจากอาเซียน (สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย) เกือบ 80% มองว่า ‘สหรัฐอเมริกา’ กำลังหมดเสน่ห์ในสายตานักท่องเที่ยว ไม่น่าดึงดูดเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งประมาณ 1 ใน 4 ระบุว่า พวกเขาสนใจไปสหรัฐฯ น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนก่อนหน้า
สาเหตุหลักๆ ที่หลายคนในอาเซียนเริ่มไม่นิยมไปเที่ยวสหรัฐฯ มาจากความกังวลเรื่องการเลือกปฏิบัติ และการปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย (60%) ตามมาด้วย นโยบายของรัฐบาลทรัมป์ (54%) และความไม่ปลอดภัยจากเหตุปืนรุนแรง (53%)
ส่วนปัจจัยอื่นๆ มีทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูง (41%) ข่าวการขึ้นภาษี (38%) การกักตัวตามด่านตรวจคนเข้าเมือง (37%) ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี (34%) ข้อจำกัดด้านวีซ่า (32%) และคำแนะนำการเดินทางจากรัฐบาลประเทศตนเอง (15%)
ซึ่งกลุ่มนักเดินทางวัยรุ่น ได้รับผลกระทบจากข่าวภาษี และนโยบายชายแดนมากกว่ากลุ่มผู้ใหญ่ แต่ก็ยังเปิดใจไปเที่ยวสหรัฐฯ มากกว่า โดยเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม เคยเดินทางไปสหรัฐฯ มาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
เมื่อดูเป็นรายประเทศ พบว่านักท่องเที่ยวจากเวียดนาม (57%) และฟิลิปปินส์ (49%) สนใจจะไปสหรัฐฯ มากขึ้นในช่วงหลัง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า อาจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในชาติกับชาวอเมริกัน และอิทธิพลจากสื่อสหรัฐฯ ตรงข้ามกับสิงคโปร์ที่มีแนวโน้มที่ลดลงมากที่สุด โดย 55% สนใจไปเที่ยวสหรัฐฯ น้อยลง และมีเพียง 7% ที่สนใจมากขึ้นจากช่วงปลายปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ CNBC สอดคล้องกับรายงานจาก YouGov เมื่อเดือนมีนาคม ที่พบความนิยมของสหรัฐฯ ในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวทั่วโลกลดลง 13% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรป ตะวันออกกลาง/แอฟริกาเหนือ แคนาดา และเม็กซิโก
ที่มา: CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา