ถ้าล้มแล้วไม่ลุก ไม่ใช่แค่เราที่เดือดร้อน แต่พนักงานอีก 80 ชีวิต ที่เป็นเหมือนครอบครัวของเรา จะต้องเดือดร้อนไปด้วย คือ สิ่งที่ทำให้ จุไรรัตน์ รามจาตุ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารีฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด สู้ไม่ถอยในยุคโควิด
ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ทำอาหารพร้อมรับประทานแช่แข็งทั้งคาว หวาน ส่งให้กับครัวร้อนในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง บอกเล่าเรื่องราว เมื่อวันที่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 รอบแรก ส่งผลรุนแรงต่อธุรกิจของเธอ จากปกติแล้วธุรกิจจะสร้างรายได้ประมาณ 150 ล้านบาทต่อปีจากรายได้หลักคือ อาหารแช่แข็งพร้อมอุ่นขายที่ซัพพลายให้กับครัวร้อนของซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ
ปีที่ผ่านมากับสถานการณ์โควิด-19 พฤติกรรมคนเปลี่ยน กับข้าวหรืออาหารแบบตักร้อนถาดรวมใหญ่ขายไม่ค่อยได้ รายได้ลดลงมาก ขณะที่รายจ่ายไม่ได้ลดลงเลย ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ต้องตั้งสติ ต้องสู้ ไม่สู้ไม่ได้ เพราะถ้าล้มแล้วไม่ยอมลุกขึ้นเดินต่อ ไม่ใช่แค่เราที่เดือดร้อน แต่พนักงานอีก 80 ชีวิตที่เป็นเหมือนครอบครัวของเรา จะต้องเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้น ทรัพย์สินอะไรที่จะช่วยหนุนสภาพคล่องได้ ต้องนำมใช้ทั้งหมด รวมถึงปรับมุมคิดวางแผนสู้ต่อ
แม็คโคร แนะนำให้เราผลิตสินค้าประเภท RTE หรือ Ready to Eat อาหารพร้อมรับประทาน รองรับกับพฤติกรรมผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้บริโภคที่ลดความนิยมอาหารปรุงสุกในครัวอุ่นร้อนของห้างฯ หันมาเลือกซื้ออาหารแช่แข็งพร้อมทานมากขึ้น จากเหตุผลด้านความปลอดภัย ความสะดวก และอายุของอาหารที่เก็บได้นานกว่า
“เรามองเห็นโอกาสนั้นเพราะธุรกิจเราได้รับผลกระทบเต็มๆ จึงเริ่มต้นผลิตสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ 8 รายการให้กับแม็คโคร เมื่อกลางปี 2563”
สำหรับสินค้าอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานของอารีย์ฟู้ดส์ ที่ผลิตภายใต้เฮ้าส์แบรนด์ของแม็คโคร ประกอบด้วย แกงเหลือง, แกงไตปลา, คั่วกลิ้ง, สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าแฮม, สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศหมู, สปาเก็ตตี้ขี้เมาหมู, ข้าวซอย, แกงฮังเล
เมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดตัวแบรนด์ เฮง เฮง เฮง ที่เป็นสินค้าช่วงตรุษจีน (ไก่ไทยต้ม, เป็ดพะโล้, หมูสามชั้นพะโล้, ปลากระพงทองนึ่ง) ทุกแบรนด์เน้นผลิตในขนาดที่ผู้ประกอบการต้องการ พร้อมนำไปอุ่นขายต่อถ้วยได้ทันที
หลังปรับตัวสู้อย่างสุดกำลัง สินค้าได้รับการตอบรับดี ทำให้ อารีย์ฟู้ดส์ เริ่มหายใจคล่องขึ้น เครื่องจักร 6 ไลน์ผลิตในโรงงาน กลับมาคึกคักเปิดรับคำสั่งซื้อที่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่ SME รายเล็กๆ จะเข้าโมเดิร์นเทรดได้นั้นไม่ง่าย สิ่งที่จะสู้ได้คือ คุณภาพและราคา ที่สำคัญต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่สั่งผลิตให้ได้
จุไรรัตน์ บอกเคล็ดลับคือ หลัก 3 รู้ นั่นคือ
- รู้ความต้องการว่าลูกค้า โดยใช้ข้อดีของ SMEs คือความยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย ให้เป็นประโยชน์
- รู้เทรนด์ตลาดของกลุ่มธุรกิจอาหาร ยิ่งรู้ล่วงหน้ายิ่งดี เริ่มก่อนย่อมได้เปรียบ
- รู้ราคาสินค้าในตลาด โดยเฉพาะ ตลาดนัด ที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป เพราะหากขายแพง ผู้ประกอบการนำไปขายต่อขายไม่ได้ สินค้าก็จะไม่ถูกเลือก
“การทำธุรกิจ ไม่สามารถหยุดอยู่กับที่ได้ ไม่ใช่ว่ามีผลิตภัณฑ์เท่านี้จะมีเท่านี้ตลอดไป อย่าลืมว่าธุรกิจอาหารคู่แข่งเยอะมาก หากไม่พัฒนา สักวันคู่แข่งจะมาแย่งพื้นที่เรา อีกทั้งต้องมองช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ หมั่นเพิ่มความหลากหลายให้ผลิตภัณฑ์ตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก”
ทุกวันนี้ อารีย์ฟู้ดส์ มีรายได้เพิ่มขึ้น แม้ในวันที่สถานการณ์โควิดส่งผลกระทบระลอกใหม่ พนักงาน 80 คนยังมีงานทำ โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้กว่า 60% มาจากแม็คโคร ส่วนที่เหลือมาจากช่องทางอื่นๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา