ยอดขายของ Apple ในจีนตกหนัก
Apple เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา (ตุลาคม -ธันวาคม 2018) โดยภาพรวมมีรายได้ 84,310 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 5% โดยปัญหาหลักสำคัญ และ Tim Cook ซีอีโอของ Apple ก็ยอมรับคือ ยอดขายของ iPhone มีราคาสูงในหลายประเทศ ทำให้ยอดขายลดลง
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของ Apple และน่าจับตามองคือ ผลประกอบการในประเทศจีนที่ตกหนัก
จากรายงานระบุว่า รายได้ในไตรมาสที่ผ่านมาของ Apple ในจีนลดลงถึง 27% คิดเป็นเงินที่หายไปกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.57 แสนล้านบาท
ผู้บริโภคชาวจีนในยุคนี้ซื้อมือถือ iPhone น้อยลง เหตุผลสำคัญคือเรื่องของราคาที่สูงขึ้นทุกปี ผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่จึงหันไปซื้อมือถือจากแบรนด์อื่นที่มีราคาถูกกว่าและยังเป็นแบรนด์ในประเทศด้วย เช่น Huawei และ Xiaomi
- “ถ้าซื้อ iPhone ใช้ จะไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง” บริษัทจีนหลายแห่งออกประกาศขู่พนักงานให้ใช้ Huawei
- ทวีตผิดชีวิตเปลี่ยน พนักงาน Huawei โพสต์สวัสดีปีใหม่โดยใช้ iPhone สุดท้ายโดนลดเงินเดือน และปรับตำแหน่งลง
Neil Mawston นักวิเคราะห์จาก Strategy Analytics บอกว่า “iPhone ของ Apple มีปัญหา(ในด้านยอดขาย)ในเอเชีย”
Bloomberg รายงานว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ผิดหวัง เพราะ Apple ไม่สามารถทำรายได้ได้ดีในจีน ซึ่งจีนถือว่าเป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการบริโภคสูง แต่ Apple ก็ทำรายได้ที่น่าผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงทำรายได้ได้ดีในสินค้าบางประเภท (ที่ไม่ใช่โทรศัพท์) มีข้อมูลเผิดเผยว่า 2 ใน 3 ของคนจีนที่ซื้อ Mac และ iPad เป็นผู้ซื้อหน้าใหม่ ก็เป็นไปได้ว่าอาจเป็นลูกค้าและสาวกต่อไป
บริษัทสายฮาร์ดแวร์ที่มีรายได้ลดลงในจีนไม่ได้มีแค่ Apple เท่านั้น เพราะด้านของ Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ และ Intel ก็มีรายได้ที่ลดลงเช่นเดียวกันในไตรมาสที่ผ่านมา
ที่มา – Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา