ในอดีตการทำตลาด Apple ในไทยอาจไม่ดุเดือดนัก เพราะให้ค้าปลีกที่ได้สิทธิ์ขายสินค้าในชื่อ iStudio และ Studio7 เดินเกมเอง กับให้โอเปอเรเตอร์จำหน่าย iPhone และ iPad แต่ปี 2561 ดีกรีความดุเดือดจะพุ่งพล่านแน่
สัญญาณเริ่มมาตั้งแต่มี PR ในไทย
Apple ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์สุดอินดี้ และเป็นตัวของตัวเองสูง หรือว่าง่ายๆ ก็ไม่ได้ง้อให้ลูกค้ามาซื้อมากนัก แต่เมื่อภาพรวมตลาดเริ่มเปลี่ยนไป ตัวสินค้าคอมพิวเตอร์เองก็มีคู่แข่งที่ทำได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงมากขึ้น ยิ่งฝั่ง Smart Device เอง จากที่เคยเป็นผู้นำในเทคโนโลยีมาก่อน ก็เริ่มถูกคู่แข่งทั้งเกาหลี และจีนแซงในบางเรื่องแล้วเหมือนกัน
จึงไม่แปลกที่ Apple จะเดินเกมในเชิงรุกมากขึ้นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการ Support ผู้ค้าให้ดีกว่าเดิม รวมถึงการแต่งตั้งตำแหน่งงานประชาสัมพันธ์ หรือ PR เพื่อติดต่อกับทั้งฝั่งผู้ค้า และฝั่งสื่อสารมวลชน ในการนำเสนอข่าว และข้อมูลใหม่ๆ เพื่อช่วยส่งไปถึงผู้บริโภคได้อีกทางหนึ่ง นอกจากโฆษณาแบบต่างๆ ที่ลงทุนผ่านโอเปอเตอร์ไปแล้ว
และถ้าสังเกตดีๆ ดีกรีในการทำตลาดของ Apple ในไทยเริ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2558 หรือปีที่ Apple เริ่มทำสินค้าตัวใหม่ รวมถึงยกเครื่องสินค้าเดิมๆ ตัวอย่างที่ดีคือ MacBook, Apple Watch และ iPad Pro ซึ่งการจะโปรโมทใหัปังเหมือน iPhone การใช้สื่อเข้ามาช่วยเหลือก็เป็นอีกคำตอบที่ดีไม่ใช่น้อย
ทวีความดุเดือดด้วยการเข้ารวม Lazada
ยิ่งหากไล่มาถึงปี 2559-2560 การเห็นโฆษณาในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทยของ Apple เริ่มไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะความจริงจังนั้นเริ่มเข้ามาเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการรับสกุลเงินบาทในการซื้อบริการต่างๆ ภายในระบบ รวมถึงเปิดสมัครพนักงานในไทยเพื่อเปิด Apple Store แห่งที่สองในภูมิภาคอาเซียน หลังเปิดที่สิงคโปร์ไปก่อนแล้ว
และล่าสุดคือการแต่งตั้ง Lazada ให้เป็น Authorised Reseller เหมือนกับที่ค้าปลีกทั้งกลุ่ม Com7, SPVi และ Uficon ได้มาตั้งแต่เริ่มจำหน่ายสินค้า Apple พร้อมกับมีข่าวแว่วมาว่า Apple ยังทุ่มเงินหลายล้านบาทเพื่อให้สินค้าของตัวเองขึ้นหน้าแรกของ Lazada และเชื่อวันที่ 12 ธันวาคม หรือ 12.12 จะต้องมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ออกมาแน่นอน
ที่สำคัญการจำหน่ายที่ Lazada นั้นตัวราคายังลดลงราว 2% หรือประมาณหลักพันบาทต้นๆ เกือบทุกสินค้าอีกด้วย กลายเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ เพราะ Apple ค่อนข้างคุมเข้มเรื่องราคา แถมยังมีเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ของตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่น่าเข้ามาลงทุนช่องทางออนไลน์เพิ่ม หากไม่ได้มีความจำเป็นจริงๆ
ผู้บริโภคไปออนไลน์ แต่หน้าร้านก็สำคัญ
สุระ คณิตทวีกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.คอมเซเว่น เบอร์หนึ่งผู้จำหน่ายสินค้า Apple ในประเทศไทย ยอมรับว่า ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น และการที่ Apple เองแต่งตั้ง Lazada ขึ้นมาเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้องอีกราย น่าจะเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าร้าย เพราะช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
“คงไม่กระทบกับเราเท่าไรนัก เพราะช่องทางหน้าร้านก็ยังสำคัญอยู่ ยิ่งสินค้ามีมูลค่าสูง การเข้ามาหน้าร้านเพื่อตรวจสอบ และพูดคุยเกี่ยวกับการใช้งานก็ยังจำเป็น ส่วนเรื่องการปรับลดราคานั้น เข้าใจว่า Lazada ก็คงทำได้ เหมือนพวกผมที่จำหน่ายเครื่องผูกสัญญากับค่ายมือถือในราคาพิเศษ ก็คงอยู่ที่ว่า Lazada นั้นยอมจ่ายไปมากแค่ไหน”
สำหรับตัว “คอมเซเว่น” ปัจจุบันมีหน้าร้านจำหน่ายสินค้า Apple ในชื่อ Studio 7 เกือบ 100 แห่งทั่วประเทศ และตัวสินค้า Apple ก็ทำรายได้ราว 1 ใน 3 ของบริษัท ที่ปีนี้น่าจะปิดตามเป้า 20,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนเล็กน้อยได้ ส่วนปีหน้ายังตั้งเป้าเติบโตเช่นเดิม เพราะเห็นสัญญาณบวกหลายตัวเริ่มกลับมาแล้ว
สรุป
การเดินเกมของ Apple ในประเทศไทยนั้นทวีความดุเดือดขึ้นมาทุกขณะ และปีหน้าต้องเห็นการฟาดฟันในตลาด โดยเฉพาะกับสินค้า Smartphone แน่นอน แต่ก็อยากให้ชวนตั้งคำถามสักเล็กน้อยว่า แฟนๆ Apple จะกล้าซื้อสินค้ากับร้านอย่างเป็นทางการของ Apple ใน Lazada หรือไม่ เพราะอย่างที่รู้ว่ากิตติศัพท์ของทางนั้นก็ไม่เป็นสองรองใคร ซึ่งถ้าเกิดไม่ดีขึ้นมา อาจกลายเป็นการลงทุนที่เสียเปล่าก็เป็นได้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา