Apple กับเงินสดกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์ ควรนำไปซื้อกิจการใด? หรือจะเป็น Netflix

นอกจาก Apple จะเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น หรือ Market Cap. สูงที่สุดในโลกแล้ว Apple ยังมีจุดเด่นเหนือกว่าบริษัทอื่นคือมีเงินสดอยู่เป็นจำนวนมาก ตัวเลขล่าสุดคือ 250,000 ล้านดอลลาร์ (รวมเงินลงทุนระยะสั้นและระยะยาวด้วย) ที่ผ่านมาแอปเปิลมีปัญหาในการใช้เงินก้อนนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเงินที่อยู่ในต่างประเทศ หากนำเข้ามาในอเมริกาจะต้องจ่ายภาษีมหาศาล

แต่จากนโยบายล่าสุดในการลดภาษีนิติบุคคลของอเมริกา ทำให้หากแอปเปิลเลือกดึงเงินนี้กลับเข้าอเมริกา จะประหยัดภาษีไปได้ราว 20% จึงมีความคุ้มค่ามากขึ้น คำถามถัดมาก็คือเมื่อแอปเปิลมีเงินสดเยอะมากเกินไปขนาดนี้ แอปเปิลควรนำเงินไปทำอะไร ซีอีโอ Tim Cook เองก็เคยเปรยว่าถ้าหากมีกลยุทธ์ที่เหมาะสม เงินก็ไม่ใช่ปัญหา VentureBeat เลยลิสท์ดูว่ากิจการใดที่ แอปเปิล “น่าจะ” ซื้อ เพื่อเติมเต็มทางกลยุทธ์ ดังที่ซีอีโอกล่าวไว้

Netflix

การซื้อ Netflix ถูกเก็งเป็นอันดับต้นๆ ในตอนนี้ ซึ่งหากซื้อกันตอนนี้ Netflix มีมูลค่ากิจการอยู่ราว 86,000 ล้านดอลลาร์ แต่ก็สามารถเติมเต็มสิ่งที่แอปเปิลต้องการมากนั่นคือ บริการวิดีโอสตรีมมิ่งและการผลิตคอนเทนต์

ปัจจุบัน Netflix มีฐานสมาชิกทั่วโลกกว่า 115 ล้านคน มีแผนผลิตซีรี่ส์และภาพยนตร์ใหม่เพื่อฉายเฉพาะบนแพลตฟอร์มกว่า 110 เรื่อง จึงสามารถนำมาเติมเต็มให้แอปเปิลได้มาก

อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ช่วงที่ผ่านมาของแอปเปิล มีการซื้อตัวบุคลากรระดับสูงด้านคอนเทนต์มาร่วมทีมอยู่หลายคน จึงอาจเป็นข้อแย้งว่าแอปเปิลน่าจะยังเลือก “ทำเอง” แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่าแอปเปิลจะปิดประตูการซื้อกิจการไปเสียทีเดียว

Disney

ถ้าจะหากตัวเลือกที่ทดแทน Netflix ได้ แอปเปิลอาจต้องพิจารณา Disney ซึ่งจะได้มากกว่าคอนเทนต์เสียอีก เพราะดิสนีย์มีอาณาจักรบันเทิงครบวงจร ตั้งแต่ คอลเลกชั่นภาพยนตร์, รายการทีวี, สถานีโทรทัศน์, สวนสนุก, โรงแรม, สินค้าที่ระลึก ฯลฯ

จุดสำคัญคือแอปเปิลและดิสนีย์เป็นพันธมิตรกันมายาวนาน ปัจจุบันซีอีโอดิสนีย์ ก็เป็นบอร์ดบริหารในแอปเปิล ขณะเดียวกัน Laurene Powell Jobs ภรรยาสตีฟ จ็อบส์ ก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ดิสนีย์ (หุ้นนี้ได้จากการขาย Pixar)

อย่างไรก็ตามราคาอาจจะเป็นปัญหาสักหน่อย ดิสนีย์มีมูลค่ากิจการกว่า 260,000 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งบุคลากรดิสนีย์ก็มีเยอะกว่าแอปเปิลมาก ดีลนี้แม้จะดูเพอร์เฟกต์ แต่ก็ยากที่จะเกิดขึ้น

ยังมีอีกหลายตัวเลือกบริษัทที่มีขนาดในระดับแอปเปิลซื้อได้ แต่หากดูจากประวัติในอดีต ก็ไม่น่าจะลงกับแอปเปิลนัก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, บริษัทรถยนต์, บริษัทกล้อง, บริษัทเกม ที่แอปเปิลน่าจะยังยินดีเป็นพาร์ทเนอร์มากกว่า

ที่มา: VentureBeat

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา