Anime Content ตลาดเฉพาะกลุ่มในไทย ที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท

anime fest2

พูดถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่น หรือ Japan Pop Culture (ไม่ใช่แค่ J-Pop) ในประเทศไทยเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วเป็นนิยมกันแบบสุดๆ ทั้งเพลง ภาพยนตร์ ซีรีส์ แต่ต่อมาได้พ่ายแพ้ให้กับ Korea Pop Culture เรียกได้ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ วางแผนและเถลิงอำนาจโดยการส่งออกวัฒนธรรมเกาหลีไปทั่วโลก ทุกวันนี้ บอยแบนด์, เกิร์ลกรุ๊ป และซีรีส์ กลายเป็นที่นิยมสุดๆ ในประเทศไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่ผลิตผลจากญี่ปุ่นดูจะเงียบหายไป

เจษฎาพงษ์ เจรียงประเสริฐ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท โซโซ่ จำกัด ผู้จัดงานบันเทิงสไตล์ญี่ปุ่น บอกว่า ทางญี่ปุ่นต้องการให้วัฒนธรรมญี่ปุ่นกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง จึงมองหาว่าอะไรที่เป็นจุดแข็งที่ประเทศอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้ พบว่ามี 3 ส่วน คือ

  1. การท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง ทั้งสถานที่และวัฒนธรรม ถือว่าเป็นระดับโลก
  2. อาหารญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่นและได้รับความนิยม ในไทยมีร้านอาหารญี่ปุ่นมากที่สุดในอาเซียน
  3. Sub Culture หรือวัฒนธรรมย่อยของญี่ปุ่น เช่น การ์ตูน, อนิเมะ, เกม และคอสเพลย์ หรือแม้แต่การพากย์เสียง

14009877_10153627032151020_841244945_n

Sub Culture เป้าหมายบูม Japan Content อีกครั้ง

Sub Culture เป็นสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความนิยมขึ้นได้ และเมื่อสำรวจตลาดในไทย พบว่า Sub Culture มีมูลค่าตลาดกว่า 5,000 ล้านบาท แต่มีที่ถูกลิขสิทธิ์กว่า 2,000 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้น โซโซ่ จึงอยากจะปลุกกระแสญี่ปุ่นกลับขึ้นมา และลดการละเมิดลิขสิทธิ์ให้น้อยลง

ที่ผ่านมา โซโซ่ จัดงาน Anime Festival โดยจัดร่วมกับงาน Comic Con ซึ่งเป็น Content การ์ตูนจากฝั่งอเมริกา แต่ครั้งนี้ Anime Festival จะแยกออกมาจัดงานเฉพาะของตัวเองเป็นครั้งแรก เพราะเชื่อว่า แม้ตลาดจะเป็นกลุ่มเฉพาะ แต่ยังมีแฟนพันธุ์แท้มากพอ ซึ่งจากการจัดงานในปีที่ผ่านมา เห็นได้เลยว่า วัยรุ่นตั้งแต่อายุ 15 – 30 ปี ยังให้ความสนใจมางาน Japan Content อยู่อีกมาก

14001920_10153627032161020_285540802_o

เปลี่ยนการรับรู้ใหม่ งานดีๆ เสียเงินเข้าแล้วคุ้ม

การรับรู้ของคนไทยคือ ชอบงานฟรี แต่ Anime Festival ต้องการจะบอกว่า งานที่เข้าฟรี แต่ไปแล้วไม่คุ้มค่า ไม่ได้อะไร เป็นประสบการณ์ที่แย่ และทำให้ไม่อยากไปร่วมงานอีก ดังนั้น Anime Festival จึงเก็บเงินค่าเข้าเพื่อสนับสนุนงานดีๆ ให้เกิดขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ตามงบของผู้ที่สนใจ แบ่งดังนี้

  • 150 บาท เข้าในส่วน Exhibition มีการออกร้านที่เกี่ยวข้องกับ Japan Content ทั้งหมด จากเจ้าของลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่น และจากผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในไทย โซนขาย Gunplar จากเรื่อง Gundam พร้อม Limited Edition โซนเกม Sony Playstation เปิดตัวเกม Final Fantasy 15 ครั้งแรกในไทย และยังมีเวทีเล็กที่เป็นการแสดงเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
  • 390 บาท สามารถเข้าส่วน Exhibition ได้ และยังเข้าชมส่วนของ Stage หลักได้ตลอดทั้งวัน มีการประกวดคอสเพลย์ พบกับนักพากย์ ผู้กำกับ เพื่อให้เข้าใจถึงเนื้อหาของ Content ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
  • 3,000 บาท เข้าได้ทั้ง 2 ส่วนงาน และตั้งแต่ 1 ทุ่มเป็นต้นไป ส่วนของ Stage จะเปลี่ยนเป็นงาน Concert เพลงการ์ตูน ได้ใกล้ชิดกับศิลปินจากญี่ปุ่นตัวจริงกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งปีที่แล้วมีคนดูประมาณ 4,000 คน
anime fest1
ภาพจากงานปี 2014

จัดงานสำรวจตลาด ขยายโอกาสธุรกิจ

การจัดงาน Anime Festival นอกจากจะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับ Japan Pop Culture แล้ว ยังเป็นการสำรวจด้วยว่า ตลาดในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพปัจจุบันเป็นอย่างไร คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานประมาณ 100,000 คน ซึ่งจะทำให้รู้ว่า คอนเทนต์แต่ละส่วนมีผู้สนใจมากน้อยแค่ไหน นักธุรกิจในไทยสามารถเจรจาเพื่อดึงลิขสิทธิ์มาทำตลาดในไทยได้ ยิ่งงานนี้ต้องจ่ายเงินค่าเข้า สร้างมูลค่าและคุณค่าให้กับงาน ดังนั้นมั่นใจได้ว่า นี่คือกลุ่มผู้บริโภคตัวจริง

ซึ่ง Anime Festival ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องของการ์ตูนเท่านั้น ยังมีเรื่องของนิยายา Lite Novel ที่ประเทศญี่ปุ่นนิยมมาก เพราะนำไปต่อยอดได้หลากหลาย มีเรื่องของเกม หรือเทคโนโลยี VR และ AR ซึ่งถ้าสามารถเรียนรู้และต่อยอดให้ดี จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในไทยได้มหาศาล

งานจัดวันที่ 19, 20, 21 สิงหาคมนี้ ที่พารากอนฮอลล์ ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ Anime ก็ลองแวะไปกันได้ หรือเข้าไปดูข้อมูลก่อนที่ animefestival.asia จะได้วางแผนการเดินในงานได้อย่างครบถ้วน

DCIM100MEDIA
ภาพจากงานปี 2014

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา