บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ Ananda ในฐานะผู้นำอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง ตอกย้ำความเป็น Urban Living Solutions อีกครั้ง กับแคมเปญใหม่ที่อยากให้คนเมืองได้จอยกับ “Ananda Joy Living เพราะชีวิตเมือง Joy ได้ทุกวัน” แคมเปญดังกล่าวสื่อสารผ่านคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่ชัดเจนและชี้ให้เห็นความ Joyful ของการใช้ชีวิตเมืองผ่านการนำเสนอผ่านประสบการณ์ของคนเมืองที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบของ Ananda ตอบโจทย์พวกเขาในแง่มุมใดบ้าง Brand Inside จึงขออาสาเจาะลึกรายละเอียดแคมเปญดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้การใช้ชีวิตเมืองของทุกคนดียิ่งขึ้นดังนี้
มองมุมกลับ ปรับมุมมอง หา Joy ให้ตัวเอง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น หลายคนคงพบเจอปัญหา หรือความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานไม่มากก็น้อย และคงจะดีกว่าถ้าเรามีพื้นที่ความสุขให้กับตัวเอง ยิ่งทุกคน Joy หรือมีความสุขมากเท่าไร เมืองก็จะมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ถ้าอธิบายง่าย ๆ ก็คงไม่พ้นการมีความสุขตั้งแต่ตื่นนอน หาสไตล์การแต่งตัวใหม่ ๆ ชุบชีวิตให้ Joy ขึ้นอีกครั้ง
ซึ่ง Ananda นอกจากจะ Develop แคมเปญ หรือพัฒนา Product ของตัวเองให้ตอบโจทย์คนเมืองแล้ว ยังต้องการ Empower ให้กับคนเมืองทุกคนได้ออกไป Joyful กับชีวิต ออกไปใช้ชีวิตตาม Passion ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน Gen ไหน ก็จอยกับชีวิตเมืองได้ในทุก ๆ วัน
แคมเปญ Ananda Joyful Living ของ Ananda สื่อสารเรื่องดังกล่าวออกมาได้ตรงจุด ชูเรื่องถ้าทุกคน Joy เมืองก็ Joy เมื่อทำได้ ชีวิตเมืองก็จะ Joy ได้ทุกวัน โดยแคมเปญดังกล่าวสื่อสารออกไปถึงกลุ่ม Persona ของแบรนด์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Gen Y ที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของอนันดา และอีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการที่แบรนด์กำลังสื่อสาร ไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่กำลังเติบโตและจะกลายมาเป็นคนเมืองรวมถึงเป็นกลุ่มที่จะมีกำลังซื้ออย่างเต็มตัวในอนาคต อย่างกลุ่ม Gen Z
ไล่ตั้งแต่กลุ่มวัยเริ่มต้นทำงานที่ถึงจะออกจากคอนโดมิเนียม 8.30 น. ก็ไม่มีปัญหา เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายต่าง ๆ หรือจะเป็นคนทำงานอิสระที่คอนโดมิเนียมของ Ananda ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการถ่ายทำคอนเทนต์ หรือประชุมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้าง Vibe ใหม่ ๆ ให้กับชีวิตได้ไม่ยาก หรือแม้กระทั่งกลุ่มครอบครัว ที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัวก็ Joyful ไปกับชีวิตเมืองได้เช่นกัน
เจาะลึกแคมเปญ Ananda Joyful Living
ข้างต้นคือการสื่อสารผ่านคลิปวิดีโอแคมเปญโฆษณา แต่หากเจาะลึกไปที่แคมเปญ Ananda Joyful Living จะพบว่า Ananda เลือกสื่อสารตั้งแต่เรื่อง ทำเล หรือ Urban Location เพราะหาที่อยู่อาศัยดี การเดินทางสะดวกสบาย ช่วยลดเวลาบนท้องถนน โอกาสได้รับความสุขก็ง่ายขึ้น โดย Ananda ได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่ใกล้รถไฟฟ้า รวมถึงบ้าน และทาวน์โฮมที่ใกล้ระบบขนส่งต่าง ๆ ทั้งยังอยู่ใกล้สถานที่ต่าง ๆ เช่น ศูนย์การค้า, โรงเรียน และอื่น ๆ เช่นกัน
แต่แค่ทำเลดีก็คงไม่พอ เพราะต้องมาพร้อมกับ พื้นที่ส่วนกลางที่ดี หรือ Urban Facilities ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยได้จริง ซึ่ง Ananda ออกแบบสถานที่ครอบคลุมครบทุก Vibe ของผู้อยู่อาศัย ไล่ตั้งแต่โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กในโครงการ, ห้อง working space ตลอด 24 ชั่วโมง, พื้นที่ออกกำลังกาย จนถึงพื้นที่การถ่ายทำคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านในแต่ละโครงการอย่างเข้าใจ
คุณภาพโครงการ และดีไซน์ที่แตกต่างคืออีกปัจจัย
นอกจากนี้ Ananda ยังมี Ananda Sure ระบบการให้บริการและการดูแลลูกบ้านอย่างใกล้ชิดในทุกโครงการ และในทุกวัน ทั้งก่อนส่งมอบบ้าน ตั้งแต่วันแรกของการอยู่อาศัย ไปจนถึงการดูแลตลอดการอยู่อาศัยในโครงการของAnanda ที่พร้อมส่งมอบมาตรฐานการอยู่อาศัยที่ดี ผ่านคุณภาพการก่อสร้าง มาตรฐานที่มีการตรวจเช็ก ระบบความปลอดภัยที่อุ่นใจ พร้อมด้วยการบริการหลังการขายที่ดีที่สุด และการดูแลด้วยความใส่ใจ – สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง และบริการหลังการขาย
ควบคู่กับ Urban Iconic Design ซึ่งเป็นหนึ่งใน DNA ของAnanda ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ของเมืองให้เป็นที่น่าจดจำของคนไทยและชาวต่างชาติ ไม่ใช่แค่อาคารที่สวยงาม แต่ต้องไม่ทำลายทัศนียภาพภายใต้เส้นขอบฟ้าของเมือง “Bangkok Skyline” ซึ่งนำมาสู่การออกแบบอาคารที่พักอาศัยที่มีเอกลักษณ์ สร้างความภูมิใจให้กับเจ้าของ และผู้อยู่อาศัย เช่นเดียวกัน รวมถึงออกแบบและพัฒนาผังห้อง และบ้านอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Ananda ขอยกระดับชีวิตคนเมือง
และหากคุ้นเคยกับ Ananda ก็คงทราบว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ Ananda ออกมาสื่อสารเรื่องการตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง เพราะก่อนหน้านี้มีแคมเปญ ทั้ง Live With Passion, ANANDA URBAN SOUL, คิด เพื่อชีวิตคนเมือง หรือจะเป็น มองขาด ทุกชีวิตเมือง แสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการยกระดับชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง
ด้วยแคมเปญที่ออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้ Terra BKK 2023 ออกมาเปิดเผยรายงานว่า Ananda เป็นผู้นำด้านคอนโดมิเนียม และมีความโดดเด่นเรื่องการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงสะท้อนตัวตนของเจ้าของ ซึ่งเรื่องหลังนี้ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเมื่อไปดูโครงการต่าง ๆ ของ Ananda จะพบว่ามีเอกลักษณ์จริง เช่น Ashton Asoke – Rama 9 ที่โดดเด่นด้วยอาคารคู่บริเวณแยกพระราม 9 ใครผ่านไปแถวนั้นก็ต้องจำได้ สร้างความภูมิใจให้เจ้าของขึ้นไปอีก
รายงานดังกล่าวยังแจ้งอีกว่า เหตุผลหลัก ๆ ที่คนเมืองเลือกซื้อคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบของ Ananda เพราะทำเลใกล้รถไฟฟ้า รวมถึงอาคารสวย ส่วนกลางใหญ่ และมีรูปแบบห้องให้เลือกหลากหลาย จึงไม่แปลกที่การซื้อที่อยู่อาศัยของ Ananda จะซื้อเพื่ออยู่เองถึง 83% โดยแบ่งเป็นกลุ่มคน Gen Y 55.4%, Gen X 40.6% และ Gen Z 4% ล้อไปกับเรื่องอาชีพที่ 45% เป็นพนักงานบริษัท 40% เป็นเจ้าของธุรกิจและนักลงทุน รวมถึง 15% เป็นนักศึกษาที่ผู้ปกครองซื้อให้อยู่อาศัย
ขณะเดียวกัน Ananda ได้เดินหน้าแคมเปญ Ananda พร้อม Joy ควบคู่กับแคมเปญดังกล่าวด้วย มี 13 คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าให้เลือก ราคาตั้งแต่ 3.39 – 26.8 ล้านบาท แต่งให้ครบ ฟรีค่าโอน และค่าส่วนกลางฟรีสูงสุด 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2024
สำหรับใครที่อยากใช้ชีวิตแบบจอยกับคอนโดพร้อมอยู่บนทำเลที่ตอบโจทย์คนเมืองที่สุด พร้อมห้องที่แต่งให้ครบ ๆ “เห็นแบบไหน ได้แบบนั้น” ห้ามพลาด จอยไปกับดีลพิเศษที่อนันดาจัดให้คนเมือง คลิก: https://anan.ly/3Kr6wN3
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แสดงให้เห็นว่า Ananda Joyful Living ไม่ใช่แค่แคมเปญที่สื่อให้เห็นว่าที่พักอาศัยของ Ananda ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองอย่างไร แต่เป็นการสื่อสารให้คนเมืองออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เมื่อทุกคนมีความสุข เมืองก็มีจะมีความสุขตามไปด้วย
ดังนั้นทุกคนอย่าลืมบันทึกกันไว้ว่า ชีวิตเมือง Joy ได้ทุกวัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา