Amazon จับมือพันธมิตรหลัก ผลักดันสินค้าไทยสู่ตลาดโลก
แม้วิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จะทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไปเนื่องจากการเดินทางไปซื้อสินค้าแบบออฟไลน์ทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายผลักให้พฤติกรรมการบริโภคสินค้ามาเกิดในแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่ผู้ให้บริการ E-Commerce ในไทยหลายๆ เจ้าตอนนี้ ยังไม่เอื้อให้ผู้ที่สนใจขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ “ส่งสินค้าสู่ระดับโลก” มากเท่าที่ควร เพราะว่าตลาดออนไลน์ของของไทย ณ ตอนนี้ยังโฟกัสเพียงแค่การขายสินค้าให้กับตลาดภายในประเทศ และตลาดระดับภูมิภาคเท่านั้น
Amazon Global Selling ประเทศไทย ได้เล็งเห็นโอกาสดังกล่าวจึงได้ประกาศโครงการความร่วมมือ ภายในงาน Amazon Global Selling Thailand Seller Conference 2020 โดยมาในธีม The future of Made-in-Thailand เพื่อช่วยผลักดันให้ผู้ขายผู้ขายระดับ SME ในประเทศไทยเข้าสู่ตลาดระดับโลก
โครงการเพื่อผลักดัน SME ไทย ของ Amazon ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ได้รับความร่วมมือกับพันธมิตรหลักอย่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ และ DHL ที่จะเข้ามาเป็นผู้ให้บริการอำนวยความสะดวกต่อยอดสินค้าของ SME ไทยให้ไปไกลระดับโลก
SME ไทยมีศักยภาพ แต่ขาดโอกาส
ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจมีความเห็นตรงกันว่าสินค้าไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันในตลาดโลก เพียงแต่ผู้ประกอบการไทยยังขาดช่องทางที่จะส่งสินค้าไทยที่มีศักยภาพเข้าไปโลดแล่นในเวทีโลก
คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในพิธีเปิดงาน Amazon Global Selling Thailand Seller Conference 2020 ว่า ภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในตอนนี้คือการคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้สินค้าของ SME ไทยที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ด้านความงาม เข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น ผ่านช่องทาง E-Commerce ซึ่งความร่วมมือกับ Amazon จะทำให้กระทรวงพาณิชย์สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้
คุณจุรินทร์เน้นย้ำว่าสหรัฐฯ เป็นตลาดสำคัญสำหรับไทยอย่างมาก จะเห็นได้ว่าแม้เรากำลังอยู่ในวิกฤติโควิด-19 แต่การส่งออกในเดือนตุลาคมของไทยสู่อเมริกายังเติบโตที่ 17% มีสัดส่วนมากที่สุดของการส่งออกโดยรวมของไทย
ดังนั้นงานนี้จึงเป็นเหมือนการประกาศความร่วมมือของรัฐบาลไทยและ Amazon ที่จะสร้างผู้ขายใหม่ๆ ในกลุ่มสินค้าศักยภาพให้กับตลาดอเมริกาผ่าน E-Commerce โดยน่าสนใจว่า สัดส่วนครึ่งนึงของผู้ซื้อออนไลน์ในตลาดอเมริกาอยู่ในแพลตฟอร์ม Amazon
คุณจารุสตรี สุวรรณวงศ์ ผู้บริหารของ Amazon Global Seeling ประเทศไทย กล่าวว่า SME ถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทย เพราะปัจจุบันเรามีผู้ประกอบการ SME ถึง 3 ล้านราย สร้างรายได้คิดเป็น 36% ของ GDP ส่วนภาคการส่งออกของประเทศไทยก็ถือได้ว่าเป็นระดับต้นๆ ของอาเซียนอยู่แล้ว
น่าสนใจว่าธุรกิจประเภท Cross-Boarder E-Commerce ของ SME เติบโตเร็วกว่าการค้า Cross-Boarder แบบออฟไลน์มาตั้งแต่ปี 2016 ปัจจัยดังกล่าวทำให้อเมซอนเริ่มให้ความสนใจที่จะผลักดันให้ SME ไทย
SME ไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งภายใต้วิกฤติโควิด ข้อมูลของ Amazon ชี้ว่าผู้ขายไทยสามารถตอบสนองความท้าทายจากวิกฤติไม่ว่าจะเป็นเรื่องโลจิสติกส์ หรืออื่นๆ ที่หยุดชะงักลงได้เป็นอย่างดี ส่วนยอดส่งออกรายปี ในปี 2020 ของหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เสื้อผ้า อาหาร อุปกรณ์สำนักงาน ก็เติบโตได้ดีแม้จะเผชิญวิกฤติ
Amazon Global Selling ประเทศไทย จึงประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ไทยในการปรับตัวเข้าสู่ตลาดออนไลน์และค้าขายในตลาดระดับโลกมากขึ้นในงาน Amazon Global Selling Thailand Seller Conference 2020 ต่อยอดความช่วยเหลือ SME ไทยต่อไปหลังจากที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ร่วมกับพันธมิตรทั้ง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และธนาคารไทยพาณิชย์
ก่อนหน้านี้ Amazon Global Selling ผลักดัน SME อย่างไร
Amazon เคยมีโครงการร่วมกับพันธมิตรไม่ว่าจะเป็น การตั้งร้าน TOPTHAI Flagship store ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศคัดสินค้าที่มีศักยภาพของไทยลงขายใน Amazon และโปรแกรม Cross-Boarder Business Matching ที่ช่วยให้ผู้ขายในไทยได้เรียนรู้และจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ขายที่มีประสบการณ์ในต่างประเทศ
Amazon ยังมีความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ในโครงการ JumpStart Thailand ที่ให้บริการ end-to-end business solution แก่ผู้ขายตั้งแต่การจับคู่ทางธุรกิจ การสร้างคอนเทนต์ แหคเกจจิ้ง แบรนด์ดิ้ง
ส่วน DHL ร่วมมือกับ Amazon โดยการบูรณาการข้อมูลระหว่างกัน 100% เพื่อให้ผู้ขายสามารถไม่ต้องเผชิญความยุ่งยากในการจัดส่งสินค้า นอกจากนี้จะมีการลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ
ความคิดต่อยอดในปี 2021 ของ Amazon Global Selling
Amazon Global Selling ประเทศไทย เล็งเห็นว่า SME ไทยสามารถเข้าสู่ตลาดได้ดีขึ้นอย่างมาก แต่ยังประสบปัญหาด้านความพร้อม การปรับตัวให้ และการดำเนินกิจการให้ได้อย่างยั่งยืน จึงมีความริเริ่มใหม่ๆ อีก 3 โครงการ ในปี 2021 ดังนี้
- เนื่องจาก 89% ของผู้ขายไทยได้ให้ความเห็นว่ามีปัญหากับแพลตฟอร์มของ Amazon ที่เป็นภาษาอังกฤษ ในปีที่จะมาถึง Amazon Global Selling ประเทศไทย จะอัพเดทให้ Seller Central มีเวอร์ชันภาษาไทย และ Seller Support ที่สามารถถามตอบได้เป็นภาษาไทยเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มและสร้างยอดขายได้มากขึ้น
- จัดทำ Seller Ambassador Program สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางออนไลน์ให้ผู้ขายในไทยได้เรียนรู้จากผู้ขายที่มีประสบการณ์และมีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ เพื่อให้ผู้ขายที่กำลังจะเริ่มต้นขายสินค้าใน Amazon กล้าที่จะเริ่มต้นมากขึ้น
- เสริมแกร่ง Business Ecosystem ด้วยการที่ Amazon และพันธมิตรที่ให้บริการ SME อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะเปลี่ยนรูปแบบการให้คำปรึกษาจากเดิมที่เป็นการให้ความรู้เชิงกว้างเพื่อให้ผู้ขายเข้าสู่ตลาดออนไลน์ระดับโลก มาสู่การให้คำปรึกษาเชิงลึกที่กลั่นกรองมาจาก pain points ของธุรกิจโดยตรง ทำให้ธุรกิจไทยที่อยู่ในแพลตฟอร์มอยู่แล้วมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา