แม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ ประกันภัย ยังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองหาตลอดเวลา ดังเช่น อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย หนึ่งในผู้เล่นในตลาดไทย และแบรนด์ชั้นนำระดับโลก แจ้งเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 10,000 ล้านบาท ในปี 2023 และ ปี 2024 จะเพิ่มเป็น 12,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17%
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจาก อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ได้ซื้อกิจการ เอทน่า เข้ามาเมื่อปี 2023 ทำให้ขุมกำลังในการทำตลาดประกันสุขภาพมีมากขึ้น ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ที่เตรียมบุกตลาดประกันภัยสำหรับกลุ่มองค์กร และการควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
รายละเอียดกลยุทธ์ธุรกิจปี 2024 ของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย เป็นอย่างไร รวมถึงมีเป้าหมายด้านอื่นอีกหรือไม่ Brand Inside มีโอกาสรับฟังจาก ลาร์ส ไฮบุทสกี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ดังนี้
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย แกร่งขึ้นหลังรวม เอทน่า
ลาร์ส ไฮบุทสกี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบัน อลิอันซ์ คือแบรนด์อันดับ 1 ในหมวดประกันทั่วโลกที่จัดอันดับโดยอินเตอร์แบรนด์ในปี 2023 และมีกำไรจากการดำเนินงานสูงเป็นสถิติใหม่ที่ 14,700 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้น 6.7% ในปีดังกล่าวเช่นกัน
สำหรับประเทศไทย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ในปี 2023 มีมูลค่าเบี้ยประกันรวมเป็นสถิติใหม่ที่ 10,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ทำได้ตามเป้าหมาย โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของตลาดที่เติบโตราว 3.6% หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เติบโตมาจากการควบรวมกิจการ เอทน่า หนึ่งในผู้ให้บริการประกันสุขภาพชั้นนำในไทย
“เราสู้เต็มที่เพื่อให้ถึงเป้าหมายมูลค่าเบี้ยประกันรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งสุดท้ายก็เกินเป้าหมายเล็กน้อย ผ่านการเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพของ เอทน่า” ลาร์ส ไฮบุทสกี้ เสริม ส่วนการควบรวม เอทน่า เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2023 หลัง เอทน่า เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเพียง 5 ปี
สร้างสมดุลเบี้ยประกันให้มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน
หากเจาะไปที่สัดส่วนเบี้ยประกันของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จะพบว่า มูลค่าเบี้ยประกันจะมาจาก Motor หรือกลุ่มยานยนต์ 33%, Non-Motor หรือกลุ่มที่ไม่ใช่ยานยนต์ 35% และกลุ่ม A&H หรือประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพ 32% โดยกลุ่มประกันสุขภาพนั้นมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดที่ 14% ตามเหตุผลการควบรวม เอทน่า
ในทางกลับกันหากมองในมุมช่องทางจำหน่ายจะพบว่า การจำหน่ายประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพ กินสัดส่วนมากที่สุดที่ 32% รองลงมาเป็นการจำหน่ายผ่านความร่วมมือ เช่น ผ่านธนาคารกรุงศรี 31% ตามด้วยเอเจนต์ 25% และการขายตรงเข้าองค์กรต่าง ๆ 14% ซึ่งช่องทางดังกล่าวมีอัตราเติบโตถึง 14%
“ในปี 2024 เราจะให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ประกันการเดินเรือ หรือประกันโครงการก่อสร้าง เนื่องจากช่องทางนี้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเบื้องต้นจะมีการเปิดหน่วยธุรกิจใหม่เพื่อเจาะลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ”
เพิ่มความยั่งยืนให้กับธุรกิจผ่านเทคโนโลยี
ขณะเดียวกัน อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ยังเดินหน้าลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยี และควบคุมค่าใช้จ่ายภายในองค์กร จนมีอัตราค่าใช้จ่ายต่อรายได้ หรือ COR ที่ 96% ลดลงมา 3% จากปี 2022 ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182%
“การจะสร้างธุรกิจประกันให้เติบโตแบบง่าย ๆ คือ การลดเบี้ยประกัน หรือเพิ่มค่าคอมมิชชั่น แต่การทำแบบนั้นมันไม่ยั่งยืน ทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ต้องการสร้างสมดุลให้ธุรกิจ ควบคู่กับการลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยี เช่น เครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล และการขาย”
ขณะเดียวกันยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น กลุ่มลูกค้ารายย่อย และ SME จะมีประกันรถยนต์ไฟฟ้า และประกันเกี่ยวกับธุรกิจ SME ส่วนลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่จะมีการทำตลาดประกันวิศวกรรม, ประกันภัยทางทะเล และการขนส่งสินค้า รวมถึงประกันความรับผิดบุคคลภายนอก
- กลุ่มอลิอันซ์ เปิดโผ 5 ความเสี่ยงสำคัญของธุรกิจไทย พร้อมเผย AI ความเสี่ยงมาแรงที่ต้องจับตามอง
- กลุ่มมาหามิตร นำโดย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดงาน THINK ทิ้ง … ชีวิต ร่วมสร้างจิตสำนึก “เลิกเทรวม”
มุ่งสู่เป้าหมายเบี้ยประกันรวม 12,000 ล้านบาท
จากกลยุทธ์ทั้งหมด อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ตั้งเป้าเบี้ยประกันรวมที่ 12,000 ล้านบาท เติบโต 17% จากปีก่อน และต้องมีอัตราค่าใช้จ่ายต่อรายได้ หรือ COR ต่ำกว่า 95% โดยมีผลิตภัณฑ์ประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพ กับประกันสำหรับลูกค้าองค์กรเป็นเรือธง
“การมี เอทน่า เข้ามาช่วย จะทำให้เราเติบโตในฝั่งประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพ ซึ่งปี 2024 ประกันสุขภาพน่าจะเติบโตได้มากกว่า 17% ยิ่งลูกค้า 1 คน สามารถถือกรมธรรม์ได้มากกว่า 1 ฉบับอยู่แล้ว โอกาสในการทำตลาดประกันประเภทนี้จึงยังมีอยู่”
ทั้งนี้ อลิอันซ์ เริ่มดำเนินธุรกิจในเอเชียมาตั้งแต่ ปี 1910 และภูมิภาคเอเชียเป็นพื้นที่สำคัญของบริษัท ผ่านการมีฐานลูกค้ามากกว่า 21 ล้านคน ใน 16 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทยที่เริ่มทำตลาดเมื่อปี 1951 มี 2 ธุรกิจคือ ประกันชีวิต และประกันวินาศภัย มีพนักงานรวมกว่า 1,400 คน
อ้างอิง // อลิอันซ์ อยุธยา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา