เปิดตัวไปแล้วสำหรับ Nissan Kicks รถยนต์ Subcompact SUV ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี e-POWER แถมยังทำราคาเริ่มต้นแค่ 8.89 แสนบาท แต่มันจะทำให้ Nissan กลายเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้หรือไม่
เทคโนโลยีใหม่ที่สุดในตลาด
หากมองแค่ในตลาดประเทศไทย Nissan Kicks เป็นรถยนต์ Subcompact SUV ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่ใหม่ที่สุดในตลาด เพราะใช้เทคโนโลยี e-POWER ที่ทำให้รถยนต์รุ่นนี้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน ผ่านการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเพื่อปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้าจะดึงไฟจากแบตเตอรี่เพื่อไปหมุนล้อรถยนต์แทน
เมื่อเทียบกับคู่แข่งในปัจจุบันที่ Toyota ใช้เครื่องยนต์ Hybrid ในรุ่น C-HR ส่วน Honda HR-V, Mazda CX-3 กับ CX-30, MG ZS และ Subaru XV ล้วนใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเพียงอย่างเดียวเพื่อส่งกำลัง โดยจะแตกต่างเรื่องขนาดเครื่องยนต์ เช่นเบนซิน 1.5, 1.8, 2.0 ลิตร หรือดีเซล 1.5 ลิตร
ดังนั้นเมื่อ Nissan ใช้เทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุดในตลาด และไม่ได้ใช้ใน Nissan Kicks รุ่นแรก เพราะก่อนหน้านี้มีทั้งรุ่น Note และ Serena ที่ติดตั้งเทคโนโลยี e-POWER ไปแล้ว จึงค่อนข้างตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการใช้รถยนต์เทคโนโลยีใหม่ และต้องการสร้างการเรียนรู้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
ราคาที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบคุณสมบัติ
นอกจากเทคโนโลยีใหม่ Nissan ยังตั้งราคารุ่น Kicks ได้ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับคุณสมบัติ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งมาในรถ โดยราคาเกรดเริ่มต้นอยู่ที่ 8.89 แสนบาท ถัดไปที่ 9.49, 9.99 แสนบาท และเกรดสูงสุดอยู่ที่ 1.049 ล้านบาท ทุกเกรดใช้เทคโนโลยี e-POWER เหมือนกัน ต่างกันที่อุปกรณ์ และระบบความปลอดภัย
เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งจะพบว่า ราคารุ่นเริ่มต้นของ Nissan Kicks แทบจะถูกที่สุดในตลาด เป็นรองแค่ MG ZS ทุกเกรด และ Mazda CX-3 เกรดเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนรุ่นสูงสุดก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ถูกที่สุดเช่นกัน เป็นรองแค่ MG ZS เกรดสูงสุด และ Subaru XV เกรดสูงสุด
สำหรับคุณสมบัติ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งใน Nissan Kicks มีทั้งเทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า, เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉิน, เทคโนโลยีกล้องมองภาพรอบทิศทาง, ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด และหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เป็นต้น
รอยต่อเทคโนโลยี หรือผู้นำของตลาดนี้
ราคาอาจทำให้ MG ZS ก้าวขึ้นมามียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในระยะเวลาอันสั้น ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ทำให้ Toyota C-HR ตอบโจทย์ผู้ชื่นชอบเทคโนโลยี และการประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Nissan Kicks ที่นำจุดเด่นทั้งสองเรื่องมาอยู่ในรถยนต์คันเดียวก็น่าจะสร้างความได้เปรียบ และก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้
อย่างไรก็ตามด้วยการเป็นเหมือนรอยต่อทางเทคโนโลยี กล่าวคือจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเหมือนกับ Nissan Leaf ก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นรถยนต์เครื่องสันดาปภายในก็ไม่ใช่เช่นกัน ดังนั้นหากมองการใช้งานในระยะยาวอาจไม่ตอบโจทย์นัก เพราะในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าล้วนน่าจะเป็นที่นิยม และ e-POWER ที่มีไว้สื่อให้เข้าใจรถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่มีความจำเป็น
ในทางกลับกันการที่ Nissan แทบจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำตลาดในประเทศไทยรายเดียวที่พยายามทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปิดใจซื้อเทคโนโลยีใหม่ เช่นการนำเข้า Nissan Leaf และขายรถยนต์ e-POWER ก็น่าจะเป็นข้อได้เปรียบในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต เพราะผู้บริโภครู้แล้วว่า รถยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างไร
สรุป
Nissan Kicks ทำราคาออกมาค่อนข้างเร้าใจ แถมดีไซน์ กับเทคโนโลยีที่ใส่เข้าไปก็ค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ก็ต้องมาดูกันว่า ผู้บริโภคจะเปิดใจกับเทคโนโลยี e-POWER มากแค่ไหน ส่วนตัวผู้เขียนมองว่า อาจดีกว่าช่วงแรกของ Hybrid ในประเทศไทยเล็กน้อย และต้องดูว่าอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมันดีกว่ารถปกติอย่างไร
ข้อมูลเพิ่มเติม
e-POWER ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ Nissan Kicks ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ ให้พละกำลังสูงสุด 129 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 1.57 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต้องเติมน้ำมันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้เครื่องยนต์
ทั้งนี้ Nissan รับประกันแบตเตอรี่เป็นเวลา 10 ปี และรับประกันระบบไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี และการรับประกันคุณภาพรถยนต์ ใหม่ เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน สามารถจอง Nissan Kicks ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยรถยนต์จะเริ่มส่งมอบรถในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา