มหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 ประจำปี 2565 ของอาลีบาบาได้สิ้นสุดลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมผลลัพธ์และ GMV ที่น่าประทับใจ สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของปีที่แล้ว แม้ท่ามกลางความท้าทายระดับมหาภาค และผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
11.11 ปีนี้ จัดว่าเต็มไปด้วยความหลากหลายและมีชีวิตชีวาที่สุดเท่าที่เคยมีมา และได้ต้อนรับผู้ค้ากว่า 290,000 แบรนด์จาก 7,000 หมวดหมู่ โดยมีผู้ค้าต่างประเทศเกือบ 40,000 ราย ครอบคลุม 90 ประเทศและภูมิภาค ที่ตบเท้ากันเข้าร่วมมหกรรมบนทีมอลล์ โกลบอล (Tmall Global) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนำเข้าสินค้าของอาลีบาบา เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายแบรนด์ไทยแท้ๆ ไปจนถึงอุปกรณ์ปิกนิคสไตล์ผู้ดีอังกฤษ เช่นเดียวกันกับเหล่าผู้ประกอบการจีนที่พากันเข้าร่วม 11.11 นี้ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยกลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen-Zers ตลอดจนผู้ขายจากมากกว่า 30 อุตสาหกรรม และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้ง ยังเห็นการเติบโตอย่างชัดเจนของกลุ่มสินค้าต่างๆ บนทีมอลล์ อาทิ กลุ่มกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง กลุ่มของเล่นของสะสม และกลุ่มเครื่องประดับ อีกด้วย
ขณะที่ไลฟ์สตรีมมิ่ง ยังคงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภค ตลอดมหกรรม 11.11 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผู้บริโภคมากกว่า 300 ล้านคน รับชมการไลฟ์สตรีมมิ่งที่จัดขึ้นบนเถาเป่า ไลฟ์ (Taobao Live) โดย 62 ช่องไลฟ์สตรีมที่โฮสท์โดยอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง สามารถทำยอด GMV ทะลุ 100 ล้านหยวน (กว่า 500 ล้านบาท) จากในจำนวนผู้ค้าอีกหลายร้อยคนที่สร้างยอด GMV จากการจัดไลฟ์สตรีมมิ่งได้สูงถึง 10 ล้านหยวน (กว่า 50 ล้านบาท) นอกจากนี้ เหล่าโฮสท์จากพื้นที่ห่างไกล ยังได้เสนอขายผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น ผ่านเซสชั่นไลฟ์สตรีมมิ่งบนเถาเป่า ไลฟ์ มากกว่า 100,000 เซสชั่น
11.11 ปีนี้ ยังได้นำเสนอบริการ “ส่งถึงประตูบ้าน” (door-step delivery) ซึ่งกลายเป็นที่นิยมแพร่หลายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหกรรม ด้วยพลังสนับสนุนจากศูนย์คัดแยกพัสดุที่ผ่านการปรับปรุงพัฒนาระบบอัตโนมัติ และระบบโลจิสติกส์ภายใต้การบริหารของไช่เหนียว (Cainiao) ทำให้ตลอดทั้งช่วงมหกรรม ไช่เหนียวสามารถจัดส่งพัสดุได้มากกว่า 120 ล้านชิ้น ถึงหน้าประตูบ้านของผู้บริโภค นอกจากนี้ ไช่เหนียว ยังได้เพิ่มจำนวนหุ่นยนต์ขนส่งอัตโนมัติ “เสี่ยวหมานหลีว์” (Xiaomanlv) (AGVs) อีกไม่ต่ำกว่า 700 คัน ครอบคลุมวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยต่างๆ กว่า 400 แห่งทั่วประเทศจีน โดยเสี่ยวหมานหลีว์ สามารถจัดส่งพัสดุเกือบ 2 ล้านชุดในช่วง 11.11 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว
ขยายฐานลูกค้าที่ภัคดี เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
ผู้บริโภค มีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการการันตีอนาคตการเติบโตของธุรกิจ ในขณะที่การเติบโตทางธุรกิจ ก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงนวัตกรรมที่จะยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอดเส้นทางการช้อปปิ้งของผู้บริโภค สำหรับปีนี้ อาลีบาบาได้ส่งมอบเครื่องมือและโซลูชั่นต่างๆ มากมาย ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถขยายฐานสมาชิก Loyalty Program ได้มากขึ้น พร้อมๆ กับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อนำพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จตลอดช่วงมหกรรม 11.11 นี้
ชุย เฉีย ประธานศูนย์พัฒนาและปฏิบัติการอุตสาหกรรมของเถาเป่าและทีมอลล์ แห่งอาลีบาบา กรุ๊ป ได้เปิดเผยว่า ผู้บริโภคคุณภาพสูงในจีนได้กลายเป็นลูกค้าประจำของผู้ค้าบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลให้ผู้ค้าสามารถสร้างการเติบโตในระยะยาวได้อย่างมั่นคง โดยปัจจุบัน ผู้ประกอบการมากกว่า 40 แบรนด์บนทีมอลล์ มี Loyalty Programs ที่มีจำนวนสมาชิกแล้วไม่ต่ำกว่าสิบล้านคน ขณะที่อีกกว่า 600 แบรนด์ มีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคนใน Loyalty Programs เหล่านี้
“11.11 ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของผู้ค้าของเราทุกปี การเปลี่ยนสถานะผู้บริโภคมาเข้าสู่ Loyalty Programs จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีที่สุด”
อาลีบาบาได้ดำเนินการจัดโปรแกรมสมาชิกระดับพรีเมียมที่ครอบคลุมทั่วทั้งระบบนิเวศในชื่อ “88VIP” ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 25 ล้านคน สร้างการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน มากกว่า 57,000 หยวนต่อปี สะท้อนถึงฐานผู้บริโภคคุณภาพสูง ที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์และอำนาจการซื้อที่แข็งแกร่ง โดยข้อแตกต่างสำคัญที่ทำให้ 88VIP เหนือกว่าโปรแกรมสมาชิกแบบดั้งเดิม คือ ความครอบคลุมต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายทั่วทั้งระบบนิเวศของอาลีบาบา ดังนั้น ยิ่งมีผู้ค้าเข้าร่วมโปรแกรม 88VIP มากขึ้นเท่าไหร่ สมาชิกก็จะยิ่งได้รับสิทธิประโยชน์และข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นเท่านั้น
ในขณะที่ 88VIP ช่วยให้ผู้ค้าสามารถสร้างความเหนียวแน่นและการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง อาลีบาบาก็ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ต่างๆด้วยระบบที่ทำให้พวกเขาสามารถบริหารจัดการสมาชิกได้อย่างเต็มศักยภาพ แบรนด์ชั้นนำมากมาย รวมทั้ง ไนกี้ (Nike) และ ยูนิลีเวอร์ (Unilever) ก็ได้มีการจัด Loyalty Programs ผ่านหน้าร้านบนทีมอลล์ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเดิม และการดึงดูดลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากฐานผู้บริโภคที่ใช้บริการบนแพลตฟอร์มเป็นประจำกว่า 123 ล้านรายต่อปี รวมการใช้จ่ายต่อคน ไม่ต่ำกว่า 10,000 หยวนต่อปี บนเถาเป่าและทีมอลล์
โปรแกรมสมาชิกของแบรนด์ต่างๆ ยังเป็นรากฐานสำคัญสำหรับผู้ค้าในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและน่าเชื่อถือ โดยใน 4 ชั่วโมงแรกของการช้อปปิ้งในช่วงที่สอง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน มีผู้ค้ามากกว่า 130 แบรนด์ สามารถทำรายได้เกิน 100 ล้านหยวน (กว่า 500 ล้านบาท) จากยอด GMV ที่มาจากการซื้อของลูกค้าสมาชิก ขณะที่ผู้ค้ามากกว่า 5,600 แบรนด์ ต่างประสบความสำเร็จกับยอด GMV ที่มาจากการซื้อของลูกค้าสมาชิก ซึ่งสูงเป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับ 4 ชั่วโมงแรกของการช้อปปิ้งในช่วงที่สอง ของเมื่อปีที่แล้ว
สนับสนุนผู้ค้าทั้งใน และต่างประเทศ
อาลีบาบา มีวิธีการที่หลากหลายในการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมบนแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะใน 11.11 ปีนี้ บริษัทได้นำเสนอความช่วยเหลือด้านการตลาด และช่วยระบุลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ให้กับแบรนด์ต่างๆที่เพิ่งเริ่มจัดไลฟ์สตรีมบนแพลตฟอร์มเป็นครั้งแรก
ขณะเดียวกัน ในด้านซอฟแวร์เก็บรวบรวมข้อมูลทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องมือวิเคราะห์การตลาด อาลีบาบาก็ได้ให้การสนับสนุนผู้ค้าทุกรายบนเถาเป่าและทีมอลล์อย่างเต็มที่ตลอดช่วง 11.11 นี้ เพื่อเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจของผู้ค้าได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของกระบวนการโอนเงินที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ค้าในช่วงมหกรรมช้อปปิ้งครั้งนี้ และทำให้รอบบัญชีลูกหนี้ลดลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 7 วันโดยเฉลี่ย สำหรับสินค้าบางประเภท
อาลีบาบา ยังคงใช้เทคโนโลยี ที่ทันสมัยและหลากหลาย อย่างต่อเนื่อง เช่น Extended Reality (XR) บน Taobao Live ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่ง เพื่อสร้างประสบการณ์เสมือนจริงให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับการช้อปปิ้ง และขับเคลื่อนการเติบโตของผู้ค้าในเวลาเดียวกัน โดยก่อนที่ 11.11 ครั้งนี้จะเริ่มเปิดฉาก บริษัทได้อัพเดตห้องไลฟ์สตรีมไว้สำหรับผู้ค้า เพื่อให้พวกเขาสามารถส่งมอบประสบการณ์เสมือนจริงออกสู่สายตาผู้บริโภคได้อย่างเต็มศักยภาพ งานนี้ มีผู้ประกอบการมากกว่า 2,000 แบรนด์ ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ทางออนไลน์ในช่วง 11.11 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ต่อการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์สำหรับผู้ค้าข้ามพรมแดน ไช่เหนียว (Cainiao) ได้มีการปรับปรุงพัฒนาระบบคลังสินค้า พิธีการศุลกากร การขนส่งระหว่างคลัง และการจัดจำหน่ายสินค้าในช่วงมหกรรมช้อปปิ้ง 11.11 ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยบริษัทได้เพิ่มจำนวนเส้นทางขนส่งสินค้าขาเข้าขึ้น 20% และเพิ่มความจุของคลังสินค้าที่บริษัทบริหารเอง เป็นสองเท่า ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น แก่ผู้ค้าบนแพลตฟอร์มข้ามพรมแดน ทีมอลล์ โกลบอล รวมถึงแบรนด์ต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
สร้าง 11.11 สีเขียว…ให้ ‘เขียว’ ยิ่งกว่าเดิม
อีกพันธกิจที่อาลีบาบาให้ความสำคัญ คือการขับเคลื่อนการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุด ปีนี้ อาลีบาบา กรุ๊ป ได้วางเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำและเริ่มใช้อย่างเป็นทางการใน 11.11 ที่ผ่านมา อาทิ ทีมอลล์ ได้กระตุ้นให้มีการติดฉลากผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำให้ครอบคลุมหมวดหมู่รายการช้อปปิ้งที่หลากหลายขึ้น บนแพลตฟอร์ม เพิ่มเติมจากหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ประหยัดพลังงาน เช่น หมวดเครื่องแต่งกาย อาหาร และเครื่องสำอาง เพื่อส่งเสริมวิถีการบริโภคอย่างยั่งยืน ฉลากผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำบนแพลตฟอร์มได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้พวกเขารับทราบถึงผลกระทบของการซื้อที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น
ทีมอลล์ยังร่วมกับผู้ค่ากว่า 40 แบรนด์ ในการจัดแคมเปญสีเขียวเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำผ่านความคิดริเริ่มต่างๆ โดย 10 จากทั้งหมด 40 แบรนด์ เช่น Procter & Gamble, Haier, ThinkPad และ Yili ได้ร่วมกับทีมอลล์ จัดทำถุงช้อปปิ้งสร้างสรรค์และยั่งยืน เป็นของขวัญแจกฟรีสำหรับผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ข้อมูลของทีมอลล์ระบุว่า กระเป๋าครอสโอเวอร์หนึ่งใบของพวกเขา ทำมาจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล 6 ขวดซึ่งสามารถหาได้ง่าย
นอกจากนี้ ทีมอลล์ยังร่วมกับอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) เทคโนโลยีดิจิทัลและแกนหลักอัจฉริยะของอาลีบาบา กรุ๊ป ในการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มบริหารจัดการคาร์บอน Energy Expert เพื่อจัดทำแบบจำลองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ออนไลน์ คำนวณและรับรองปริมาณ สำหรับผู้ค้า 40 แบรนด์ข้างต้น เพื่อให้พวกเขาสามารถตรวจสอบปริมาณคาร์บอนในผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ และมีข้อมูลจากการดำเนินงานตามแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืน
ด้วยความร่วมมือจากผู้ค้านับหมื่นราย ไช่เหนียวมุ่งมั่นที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากกระบวนการขนส่งและบรรจุภัณฑ์ โดย 11.11 นี้ บริษัทสามารถเพิ่มจำนวนตู้รับกล่องพัสดุรีไซเคิลตามสถานีบริการไช่เหนียว โพสต์ (Cainiao Post) ได้เกือบ 130,000 แห่งทั่วประเทศ และตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สามารถรีไซเคิลกล่องพัสดุได้มากเกือบ 4 ล้านกล่อง และผู้บริโภคมากกว่า 100,000 คนต่อวัน ได้ส่งพัสดุที่บรรจุโดยกล่องรีไซเคิลจากสถานีไช่เหนียว โพสต์ ในช่วง 11.11
แพลตฟอร์ม X แบรนด์ หัวใจหนุนธุรกิจเติบโต
อาลีบาบายังคงให้ความสำคัญกับการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในทุกภาคส่วนและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความชอบและพฤติกรรมของผู้บริโภคให้แก่ผู้ค้า เพื่อเร่งขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เร็วขึ้น และสามารถคว้าโอกาสใหม่ ๆ ได้ทันท่วงที ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังให้การสนับสนุน และส่งมอบทรัพยากรที่แข็งแกร่งในด้านอื่นๆ แก่ผู้ค้า เช่น การจัดการลูกค้า การตลาด และการขนส่ง เพื่อเสริมกำลังในการพัฒนาธุรกิจ
ในฐานะผู้ผลิตช็อกโกแลต และหนึ่งในแบรนด์ที่เข้าร่วม 11.11 มาหลายปี Mars Wrigley ได้ผ่านการทำงานร่วมกับอาลีบาบาอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด และแน่นอนว่าสำหรับ 11.11 นี้ ทางแบรนด์ก็ไม่พลาดการเปิดตัวช็อกโกแลตรสใหม่ออกสู่ตลาดจีนเช่นกัน ทั้งนี้ หยาง อี ซิน หัวหน้าฝ่ายการตลาดดิจิทัลของ Mars Wrigley ได้กล่าวว่า การทำงานกับทีมอลล์อย่างใกล้ชิด ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Mars ใช้เวลาน้อยกว่า 8 เดือนในกระบวนการพัฒนาจากงานวิจัยไปสู่ตลาด ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อเทียบกับวงจรนวัตกรรมเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ที่มักใช้ระยะเวลาราว 2 ปี และที่สำคัญ ความร่วมมือนี้ ยังทำให้แบรนด์สามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภค
Royal Canin แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงที่มีสมาชิกมากกว่าหนึ่งล้านคน และดำเนินธุรกิจบนทีมอลล์มายาวนานกว่า 10 ปี
ซุน หยาง ฉวง รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Omni-SPT Royal Canin กล่าวว่า แบรนด์ได้พยายามสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคให้ลึกซึ้งมากกว่าแค่การเสนอผลิตภัณฑ์และส่วนลด และยังคงพัฒนาโซลูชันด้านโภชนาการตามหลักวิทยาศาสตร์สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับส่วนงานด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ของทีมอลล์ ในขณะเดียวกัน ก็มีการสร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ตามความเหมาะสมแก่สมาชิก เช่น การแบ่งปันความรู้ทางวิทยาศาสตร์และประสบการณ์ 50 ปี ในการดูแลสัตว์เลี้ยง ให้กับลูกค้า ทั้งนี้ ในอนาคต Royal Canin หวังที่จะทำงานร่วมกับทีมอลล์ เพื่อสร้างระบบสมาชิก ที่จะช่วยขยายภาพลักษณ์ของแบรนด์ออกสู่สายตาสังคมในวงกว้าง รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้บริโภคกลายเป็น Key Opinion Consumers (KOCs) ต่อไป
Inner Health แบรนด์อาหารเสริมที่เข้าร่วมกับ ทีมอลล์ โกลบอล ในปี 2565
Inner Health แบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเพิ่งเข้ามาเปิดหน้าร้านบนทีมอลล์ โกลบอล ในปี 2565 ได้เปิดตัวสินค้าครั้งแรกใน 11.11 ปีนี้ ฮวง เสี่ยว ฉุน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประเทศจีน แห่ง Inner Health กล่าวว่า Inner Health ได้ทำการสำรวจว่าผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือไม่ และได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทางแบรนด์และทีมอลล์ต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนสร้างดีมานด์ในผู้บริโภค
Inner Health ต้องเผชิญกับความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากคลังสินค้าบางแห่งต้องระงับการดำเนินงาน บริษัทจึงได้ใช้โซลูชันคลังสินค้าหลายแห่งของ ทีมอลล์ โกลบอล และ ไช่เหนียว เพื่อกระจายสต็อกออกสู่คลังสินค้าหลายแห่ง ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยง และรับประกันความต่อเนื่องของบริการ โดยในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมา แบรนด์ได้เตรียมการรับมืออย่างครอบคลุม ซึ่งรวมไปถึงการทดสอบแผนการตลาดและการวางตำแหน่งทางการตลาด ทั้งนี้ มหกรรม 11.11 ถือเป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมในการทดสอบกลยุทธ์ของแบรนด์ทั้งหมด 11.11
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา