สัปดาห์ที่ผ่านมา อัลฟอนโซ อัลบายซ่า รองประธานอาวุโส ส่วนงานออกแบบทั่วโลก บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด เดินทางมาประเทศไทยเพื่
Brand Inside มีโอกาสเข้าไปนั่งฟังบรรยายในรอบสื่อด้วย เลยสรุปส่วนที่น่าสนใจมาให้อ่านกัน เพราะเรื่องราวที่น่าสนใจสำหรับวงการรถยนต์ในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ หนีไม่พ้นเรื่อง “รถยนต์ไฟฟ้า” และ “รถยนต์ไร้คนขับ” ที่จะแข่งกันอย่างดุเดือด คำถามสำคัญคือ แล้ว Nissan กำลังทำอะไร และกำลังคิดอะไรอยู่?
หัวใจของการออกแบบ คือ “การสื่อภาษาของบริษัท”
อัลฟอนโซ เริ่มต้นด้วยการพูดถึงเรื่องการออกแบบจากขั้นพื้นฐานก่อน เนื่องด้วยเขาคือ หัวเรือใหญ่ส่วนงานออกแบบของ Nissan ทั่วโลก
ส่วนเหตุผลที่เขาเดินทางมาไทยในครั้งนี้ ชัดเจนตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาพูด “เพราะการออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของส่วนงานด้านวิศวกรรม และ Nissan ต้องการทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจการออกแบบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าและไร้คนขับ”
พูดแบบขยายความ การออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า-ไร้คนขับ มีโจทย์ใหญ่คือ ต้องหลุดออกจากกรอบเดิมๆ เพราะต้องไม่ลืมว่า เรากำลังออกแบบรถยนต์ที่ไม่มีเครื่องยนต์ แต่ความซับซ้อนอยู่ตรงที่การออกแบบรถยนต์ที่ไม่มีเครื่องยนต์ ยังต้องตอบโจทย์อีกหลายโจทย์คือ
- ความเร็ว/ความแรงยังเท่าเดิม (หรือมากกว่า)
- พื้นที่ในตัวรถยนต์ที่มากขึ้น จะเอาไปทำอะไร?
- การไม่มีเครื่องยนต์หมายความว่า การออกแบบต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพในด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ทิศทางลมจะมีผลต่อรถยนต์แค่ไหน อย่างไร
- การออกแบบรถยนต์ในอนาคต ยังจำเป็นที่จะต้องมีพวงมาลัยอยู่หรือไม่ เพราะรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับเป็นเรื่องเดียวกัน
- รูปแบบ Sharing Economy หรือเศรษฐกิจแบบแบ่งปันกันใช้จะเกิดขึ้น เช่น สั่งการให้รถยนต์ไร้คนขับนำจักรยานที่เป็นบริการ Bike Sharing ไปจอดไว้ในที่ต่างๆ เพื่อให้คนใช้งาน ในฐานะนักออกแบบ เราคิดแผนรองรับเรื่องนี้ไว้อย่างไร?
โจทย์ใหญ่ซ้อนโจทย์เล็กยิบย่อยเหล่านี้ สำคัญและจำเป็นที่ต้องคิด แต่ อัลฟอนโซ ย้ำเรื่องใหญ่สำหรับนักออกแบบทั้งหลายอย่างหนึ่งว่า การออกแบบต้องไม่ลืม “ภาษา” ที่จะสื่อ อย่างที่ Nissan สิ่งสำคัญของการออกแบบรถยนต์ทุกรุ่น คือ “ภาษาของการออกแบบ” (design language) จะต้องสื่อถึงตัวตน (identity) ของบริษัท
ปรัชญาของ Nissan คือสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนใช้ได้
อัลฟอนโซ เน้นย้ำอีกอย่างหนึ่งว่า ในโลกที่เทคโนโลยีเป็นใหญ่ การออกแบบรถยนต์ หรือสินค้าชนิดอื่นๆ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความเย็นชามากขึ้น เพราะฉะนั้น สำหรับตัวเขาเองเขามองว่า “ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามาทำให้ทุกอย่างมันเย็นชา เรา-ในฐานะนักออกแบบ ต้องทำให้เกิดความอบอุ่น (warm) ในการออกแบบ ทำให้ทุกการออกแบบมีชีวิตชีวา ใส่ความเป็นมนุษย์เข้าไป”
มากไปกว่านั้น การออกแบบรถยนต์ต้องแสดงให้เห็น (represent) ถึงภาพของบริษัททั้งในปัจจุบันและอนาคต อัลฟอนโซ บอกว่า เราพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจว่า Nissan คือบริษัทเทคโนโลยี “เราไม่ใช่แค่บริษัทผลิตรถยนต์ปกติธรรมดา แต่เราคือบริษัทเทคโนโลยี”
ปรัชญาของ Nissan คือการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนใช้ได้ “ในด้านวิศวกรรมนี่คือเรื่องใหญ่ เพราะการสร้างรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำยุค แต่ต้องทำให้ทุกคนสามารถใช้ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเรื่องราคา แต่ Nissan ทำได้ ขณะนี้รถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งบนถนน แบรนด์ของ Nissan ทำยอดขายได้มากที่สุด”
แต่ทั้งนี้ ในด้านการออกแบบก็เช่นกัน รถยนต์ที่ทุกคนใช้ได้ หมายความว่าการออกแบบของเราต้องทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเข้าถึงได้ (อัลฟอนโซ ใช้คำว่า democratic ถ้าเป็นศัพท์เฉพาะทางรัฐศาสตร์จะแปลว่า ประชาธิปไตย แต่ในทีนี้ขอแปลว่า การออกแบบที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเข้าถึงได้)
ถ้าถามว่า การออกแบบที่เข้าถึงเป็นอย่างไร แนะนำให้ลงไปดูรูป Nissan Leaf เวอร์ชั่น 2 ด้านล่าง ในระหว่างการบรรยาย อัลฟอนโซ ขนรูปมาโชว์ให้ทุกคนได้ดู เพื่อทำให้เห็นถึงการออกแบบที่เน้นเส้นตรงแนวราบ (horizon) แสดงออกถึงการเข้าถึงได้ (democratic) ซึ่งเป็นสิ่งที่ Nissan ต้องการสื่อผ่านภาษาของการออกแบบ
ก้าวต่อไปของ Nissan ในสมรภูมิรถยนต์ไฟฟ้า-ไร้คนขับ
ในระหว่างการบรรยายของ อัลฟอนโซ มีหลากหลายคำถามที่ชี้ให้เห็นว่า แวดวงรถยนต์กำลังสนใจเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับอย่างสูงมาก
Brand Inside ลุกขึ้นถามว่า ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า-ไร้คนขับที่มีคู่แข่งอยู่รายล้อม ทั้ง Tesla ที่อาจจะติดอยู่ในเลเวล 2-3 ส่วน GM และ Waymo ที่ขยับเข้าใกล้เลเวล 5 ของการผลิต และนี่ยังนับรวมถึงอีกหลายแบรนด์ในตลาดที่เร่งพัฒนา คำถามคือ รถยนต์ไฟฟ้า-ไร้คนขับของ Nissan ขณะนี้อยู่จุดไหนแล้ว พร้อมสำหรับการแข่งขันแค่ไหน และจะทำอะไรต่อไป?
คำตอบที่ไม่คาดคิด แต่ขบขันของ อัลฟอนโซ ตอบกลับมาอย่างทันควันว่า “I hate you! (ผมเกลียดคุณ!) แต่ต้องขอขอบคุณที่ถามคำถามนี้มา เพราะเอาเข้าจริงแล้ว มันสำคัญมาก Nissan พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในด้านวิศวกรรมอาจตอบอะไรไม่ได้มาก เพราะดูแลงานด้านการออกแบบ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว Nissan จะลงไปเล่นในฐานะหนึ่งในผู้นำของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า-ไร้คนขับอย่างแน่นอน หลายบริษัททำแท็กซี่ไร้คนขับ ผมคิดว่า Nissan ก็จะไม่พลาดในจุดนั้น”
Nissan Leaf เตรียมเข้าไทย ปีงบประมาณ 2018
อีกหนึ่งคำถามของผู้ติดตามแวดวงรถยนต์คือ แล้วรถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan จะเข้ามาจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่?
คำตอบของ Nissan ยังกว้างเช่นเดิมคือ จะนำเข้ามาขายในไทยอย่างแน่นอนในเร็ววันนี้ แต่ตอนนี้ตอบได้เพียงว่า จะมาในปีงบประมาณ 2018 ของ Nissan หมายความว่า จะเป็นวันใดก็ได้นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2018 จนถึง 31 มีนาคม 2019
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา