หลังจากที่ AIS และ 3BB ควบรวมกันมาได้สองปี ภายใต้ชื่อ ‘AIS 3BB FIBRE3’ ตอนนี้ธุรกิจเน็ตบ้านในเครือ AIS ก็ยังเดินหน้าขยายตลาดในครึ่งปีหลัง 2568 ตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน ‘เป็นมากกว่าเน็ตบ้าน’ ทั้งในแง่ความเร็ว ความบันเทิง ความปลอดภัย และการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ
‘ยอดชาย อัศวธงชัย’ หัวหน้าหน่วยธุรกิจการค้า ธุรกิจบรอดแบนด์ AIS ยืนยันว่าเป็น ‘เบอร์หนึ่ง’ ของตลาด จากฐานลูกค้ารวมกันกว่า 5.1 ล้านราย โดยมีส่วนแบ่งตลาดจากฝั่ง ‘จำนวนลูกค้า’ ราว 47% และฝั่ง ‘รายได้’ ประมาณ 45.7%
โดยในภาพรวม ลูกค้า ‘กรุงเทพ-ปริมณฑล’ มีอยู่ประมาณ 1.3 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม ‘FIBRE’ 1 ล้านราย และ ‘3BB’ อีก 3 แสนราย ขณะที่ ‘ต่างจังหวัด’ ยังเป็นฐานใหญ่ของ ‘3BB’ มีผู้ใช้ราวๆ 2 ล้านราย และ ‘FIBRE’ อีกประมาณ 1.8 ล้านราย
สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ AIS 3BB FIBRE3 ขยายโครงข่ายครอบคลุมครบทั้ง 928 อำเภอทั่วประเทศแล้ว อำเภอสุดท้ายที่เพิ่งปักหมุดให้บริการ คือ ‘เกาะสีชัง’ ส่วนเป้าหมายในตอนนี้ คือขยายโครงข่ายให้ครบทุกตำบลทั่วไทย ซึ่งมีอยู่ราวๆ 8,000-9,000 ตำบล และ AIS ทำสำเร็จไปแล้ว 7,379 ตำบล
ขณะที่อัตราการยกเลิกใช้บริการ (churn rate) ก็ถือว่าต่ำเพียง 1% สะท้อนว่าลูกค้าไม่ได้เปลี่ยนใจง่ายๆ โดยสัดส่วนลูกค้าที่สมัครเน็ตบ้านอย่างเดียวมีประมาณ 40% ที่เหลือจะพ่วงคอนเทนต์หรือบริการอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้มูลค่าต่อผู้ใช้ (ARPU) สูงขึ้นด้วย
สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 AIS 3BB FIBRE3 ยังเน้นจับตลาดความบันเทิงเต็มที่ โดยเฉพาะการถ่ายทอดสด ‘พรีเมียร์ลีกอังกฤษ’ และ ‘FA CUP’ แบบถูกลิขสิทธิ์ มีให้เลือกแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 199 บาท/เดือน และ 299 บาท/เดือน ถ้าอยากดูผ่านกล่อง AIS PLAYBOX
ส่วนร้านอาหาร ผับ บาร์ หรือสถานบันเทิง ซึ่งถือเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญ ก็มีแพ็กเกจเฉพาะ เริ่มต้นที่ 2,800 บาท/เดือน ความเร็วเน็ต 1000/1000 Mbps พร้อมสิทธิ์ดูบอลครบทุกแมตช์
‘ยอดชาย’ เสริมว่าในไทยมีร้านอาหาร ผับ บาร์ประมาณ 50,000 ร้าน จึงมองว่ามีโอกาสต่อยอดบริการเน็ตพร้อมคอนเทนต์ได้อีกมาก แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะไม่แน่นอน แต่ AIS มองว่ากำลังซื้อกลุ่มนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบชัดเจนนัก
นอกจากนี้ยังมีจับมือพาร์ทเนอร์กับ ‘MONO’ และเพิ่มคอนเทนต์ข่าวต่างประเทศอย่าง Bloomberg, Fox News, Fox Business รวมถึงยังคงมี Netflix, Disney+ Hotstar, HBO Max และคอนเทนต์จากช่องกีฬาระดับโลกให้เลือกดูได้หลายแบบด้วย
ด้านเทคโนโลยีปีนี้มีของใหม่คือ ‘Router AI 2G’ รองรับความเร็วสูงสุดถึง 2Gbps ทั้ง LAN และ Wi-Fi ใช้เทคโนโลยี Wi-Fi 7 Multi-RU และชิป AI ช่วยลดสัญญาณรบกวน ลดความหน่วงได้ 50% ใช้งานได้พร้อมกันสูงสุด 128 เครื่อง เหมาะกับบ้านที่มีคนทำงาน ประชุมออนไลน์ เล่นเกม หรือสตรีมวิดีโอพร้อมกัน
อีกหนึ่งบริการที่น่าสนใจคือ ‘Pro-Event Solution’ ที่ออกมาตอบโจทย์ธุรกิจจัดงาน หรือออร์แกไนเซอร์ที่ต้องการเน็ตแรงชั่วคราวสำหรับคอนเสิร์ต งานกีฬา ไลฟ์สตรีมมิง หรืองานแสดงสินค้า มีวิศวกรดูแลหน้างาน ตั้งราคาเริ่มต้นที่ 2,800 บาท/เดือน
‘ยอดชาย’ เล่าว่า AIS อยากลุยตลาดออร์แกไนเซอร์มากขึ้น หลังจากที่จำนวน งานอีเวนต์และคอนเสิร์ตเติบโตขึ้นต่อเรื่อง โดยในปี 2566-2568 มีงานอีเวนต์ที่ถูกจองพื้นที่จัดงานที่ ‘อิมแพ็ค เมืองทองธานี’ ประมาณ 1,073 งาน และคอนเสิร์ต 900 งาน
สิ่งที่แตกต่างอีกเรื่องคือ บริการดูแลบ้าน ลูกค้าที่สมัครบางแพ็กเกจจะได้รับสิทธิ์ ‘ประกันภัยบ้าน’ ฟรี วงเงินสูงสุดถึง 500,000 บาท ครอบคลุมตั้งแต่ไฟไหม้ น้ำรั่ว เข้าบ้านไม่ได้ ไปจนถึงมีสัตว์ร้ายโผล่เข้ามาในบ้าน พร้อมทีมช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงตลอดปี
‘ยอดชาย’ ทิ้งท้ายว่า อัตราการเข้าถึงบริการเน็ตบ้านต่อประชากร (penetration rate) จะอยู่ที่ 36.8% แต่ก็ยังเหลืออีกหลายล้านครัวเรือนที่ยังมีโอกาสต่อสายเข้าใช้ ขณะที่ลูกค้าปัจจุบันส่วนใหญ่เอง ไม่ได้ต้องการใช้เน็ตบ้านเปล่าๆ แต่หันมาใช้แพ็กเกจที่พ่วงสิทธิ์ดูคอนเทนต์ หรือบริการเสริมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งช่วยล็อกลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์นานขึ้น
- AIS Fibre หวังปี 2025 ลูกค้าใหม่เพิ่ม 2.7 แสนราย ขึ้นที่ 1 เบ็ดเสร็จเน็ตบ้านด้วยแชร์ทะลุ 50%
- เปิดกลยุทธ์สร้างฐานลูกค้าจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ทีเด็ดของ Monomax และ AIS
ที่มา: งานแถลงข่าว ‘AIS เปิดกลยุทธ์เน็ตบ้านครึ่งปีหลัง 2568’
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา