โรมมิ่งยุคนี้ต้องได้มากกว่าเน็ต AIS ร่วมมือ 7 เครือค่ายเอเชีย เปิดตัว ‘WanderJoy’ โปรแกรมแลกรีวอร์ดข้ามประเทศ ครั้งแรกในโลก

ยุคนี้ ‘โรมมิ่ง’ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของสัญญาณอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนให้การเดินทางไม่เหมือนเดิม

ล่าสุด ’AIS’ ร่วมมือกับ 7 ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในเอเชียแพซิฟิก เปิดตัว ‘WanderJoy’ โปรแกรมสะสมแต้ม และสิทธิพิเศษข้ามประเทศครั้งแรกของโลก เพื่อให้ผู้ใช้งานที่เดินทางระหว่างประเทศ สามารถรับส่วนลด และสิทธิ์ต่างๆ ได้ผ่านแอปเดียว

โครงการนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน ‘KDDI Summit 2025’ ที่กรุงโตเกียว ภายใต้ความร่วมมือของกลุ่ม ‘The Travel Alliance’ ซึ่งประกอบด้วยผู้ให้บริการรายใหญ่ ได้แก่ AIS (ไทย), Singtel (สิงคโปร์), Taiwan Mobile (ไต้หวัน), GOMO Philippines (ฟิลิปปินส์), KDDI (ญี่ปุ่น), Telkomsel (อินโดนีเซีย), Optus (ออสเตรเลีย), และ HKT (ฮ่องกง)

โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ ยกระดับประสบการณ์การเดินทางของลูกค้าในยุคดิจิทัล

การเปิดตัว WanderJoy ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ AIS ที่ขยายบทบาทจากการเป็นผู้ให้บริการโครงข่าย สู่การสร้างประสบการณ์ครบวงจร สำหรับนักเดินทางทั่วภูมิภาค ด้วยการเชื่อมต่อโลกของการสื่อสารเข้ากับบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ความบันเทิง และไลฟ์สไตล์ในประเทศปลายทาง

‘ปรัธนา ลีลพนัง’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไปของ AIS อธิบายถึงแนวทางของโครงการว่า มาจากปัญหาที่ผ่านมา นักเดินทางเจอกับปัญหาความยุ่งยาก ทั้งระบบรางวัลที่ไม่เชื่อมต่อกัน ปัญหาภาษา และการเข้าถึงสิทธิ์ในต่างประเทศ

WanderJoy ถึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสะดวก คุ้มค่า และมั่นใจยิ่งขึ้นเวลาซื้อ หรือใช้บริการมือถือในต่างประเทศ

ลูกค้า AIS สามารถเข้าถึง WanderJoy ผ่านเมนู ‘Global Rewards’ บนแอป myAIS เพื่อดูสิทธิพิเศษจากพันธมิตรในประเทศต่างๆ เช่น ส่วนลดร้านอาหาร การเข้าพักโรงแรม หรือบริการสนามบินพรีเมียม โดยไม่ต้องสมัครหรือโหลดแอปใหม่

‘ศรัณย์ ผโลประการ’ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS เสริมว่า สำหรับการเปิดตัว WanderJoy ในไทย AIS ได้เตรียมสิทธิพิเศษที่สะท้อนเอกลักษณ์ของไทยไว้ให้กับนักเดินทางต่างชาติที่ร่วมโปรแกรม เช่น ส่วนลด 50-75% สำหรับบริการนวดไทยจากร้านชั้นนำกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีบริการขนส่งสัญลักษณ์ของไทยอย่าง ‘รถตุ๊กตุ๊กพลังงานไฟฟ้า’ ภายใต้บริการ ‘Move Me’ ที่มอบสิทธิ์เดินทางฟรี 1 ครั้ง จากโรงแรมไปยังจุดหมายในเมือง พร้อมส่วนลดเพิ่มเติมอีก 20% สำหรับการใช้บริการครั้งต่อไป

และอีกหนึ่งสิทธิพิเศษคือ ส่วนลด 10% สำหรับการเข้าชมมวยไทยสดที่สนามราชดำเนิน พร้อมบริการเครื่องดื่มแบบ Free Flow ตลอดการรับชม ถือเป็นตัวอย่างของสิทธิ์ ‘ซิกเนเจอร์ไทย’ ที่ AIS ตั้งใจนำเสนอผ่าน WanderJoy เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนเดิม ให้กับนักท่องเที่ยวทั่วภูมิภาค

เชื่อมต่อ 8 เครือข่าย ครอบคลุมลูกค้าเกือบ 350 ล้านราย

The Travel Alliance มีฐานลูกค้ารวมกว่า 350 ล้านรายในภูมิภาค และทุกเครือข่ายจะสามารถเข้าถึงสิทธิ์เดียวกันได้แบบข้ามพรมแดน ซึ่งถือเป็นแนวคิดใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ที่เปลี่ยนการโรมมิ่ง จากบริการด้านการสื่อสาร มาเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์การเดินทาง

ตัวอย่างสิทธิพิเศษที่ WanderJoy นำเสนอ เช่น

  • DragonPass ให้สิทธิ์เข้าใช้เลานจ์สนามบินกว่า 1,400 แห่งทั่วโลก
  • Estée Lauder มอบของขวัญพิเศษเมื่อช็อปในร้านปลอดภาษี
  • Grab ให้ส่วนลดสูงสุด 120 ดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับบริการขนส่งและอาหาร
  • KKday มอบส่วนลดสูงสุด 15% สำหรับทัวร์และกิจกรรมในหลายประเทศ
  • Trip.com ให้ส่วนลดโรงแรม 10% และเที่ยวบิน 6%

สิทธิ์ทั้งหมดสามารถแลกรับได้ผ่านแอปของผู้ให้บริการในแต่ละประเทศ เช่น myAIS, My Singtel, The Club (HKT), Taiwan Mobile app, MyTelkomsel หรือ GOMO PH app โดย WanderJoy จะอัปเดตสิทธิ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตามฤดูกาลและจุดหมายยอดนิยมของนักเดินทาง

เชื่อมโลกดิจิทัลกับการท่องเที่ยว

สำหรับ AIS โครงการนี้สะท้อนกลยุทธ์การขยายบริการดิจิทัลไปสู่ ‘Lifestyle Ecosystem’ ที่ครอบคลุมมากกว่าการสื่อสาร โดยใช้ความแข็งแกร่งของโครงข่าย 5G และบริการโรมมิ่งระดับภูมิภาค มารวมกับสิทธิพิเศษจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและค้าปลีก

นอกจากนี้ WanderJoy ยังช่วยเสริมศักยภาพของบริการโรมมิ่ง ‘Ready2Fly’ และ ‘SIM2Fly’ ของ AIS ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่มี ‘มูลค่าเพิ่ม’ มากขึ้น ไม่ใช่เพียงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ แต่ยังมอบส่วนลด และรางวัลที่ใช้ได้จริงระหว่างการเดินทาง

การเปิดตัว WanderJoy ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมครั้งใหม่ในภูมิภาค ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายไปสู่พันธมิตรด้านโรงแรม สายการบิน และร้านค้าระดับโลกในอนาคต

โดยทุกเครือข่ายภายใต้ The Travel Alliance ยืนยันว่า จะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ร่วมกัน เพื่อยกระดับประสบการณ์ของนักเดินทางยุคดิจิทัลให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา