เอไอเอส เปิดตัว “AIS Hyper-Reality Experience” ใช้เทคโนโลยี Hyper-Reality ซึ่งพัฒนามาจาก Virtual Reality มาให้ลูกค้าและคนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยสามารถสัมผัสภาพเสมือนจริงได้มากกว่าเพียงแค่ใส่แว่นมอง ทำให้สามารถ Action ตอบโต้ในสิ่งที่เห็นได้ ไม่ว่าจะจับ นั่ง ยืน ก้ม ได้ทั้งตัว โดยมีประสบการณ์ให้ลอง 4 แบบ
- AIS Hyper-Reality Game ครั้งแรกกับการเล่นเกมส์ในรูปแบบใหม่ ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นที่มากกว่าโดยจำลองผู้เล่นเข้าสู่โลกเสมือนจริง เหมือนหลุดเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเกมเหล่านั้น พร้อมพบกับภารกิจท้าทายและประสบการณ์ที่เหนือจริง
- AIS Spaceship ในรูปแบบการท่องยานอวกาศ เสมือนผู้เล่นได้เข้าไปเดินอยู่ในยานอวกาศจริง และเป็นครั้งแรกที่ให้ผู้เล่นสามารถแชร์ภาพบรรยากาศในโลกจำลองของตนเองได้แบบ 360 องศา ผ่าน Social Media ได้ด้วย
- AIS Gallery เป็นการฉีกกฏการชมงานศิลปะแบบเดิมๆ ที่เป็นภาพ 2 มิติ เปลี่ยนเป็นการชมงานศิลปะซึ่งเป็นผลงานของ คุณ Alex Face สตรีทอาร์ทตีสชื่อดังของไทย โดยภาพที่เห็นจะมีการเคลื่อนไหวและเสมือนจริงยิ่งขึ้น
- AIS Theater รูปแบบใหม่ของการชมภาพยนตร์ ที่สามารถชมได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องชมในโรงภาพยนตร์ แต่จะเสมือนได้ชมในโรงภาพยนตร์จอยักษ์จริง
ปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด ของ เอไอเอส บอกว่า AIS Hyper-Reality Experience เป็นการนำเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตที่ดีที่สุดในโลก อย่าง “Hyper-Reality” มาให้ลูกค้าและคนไทยได้มีโอกาสรับชมคอนเทนต์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เป็นครั้งแรกในประเทศไทย กับการเปลี่ยนมิติใหม่ของการเล่นเกมส์, ดูหนัง และชมศิลปะ ในรูปแบบที่สนุกยิ่งกว่า ให้ความรู้สึกที่มากกว่า และสมจริงยิ่งกว่า เหมือนกับหลุดเข้าไปอยู่ในเกมส์ ภาพยนตร์ หรืองานศิลปะนั้นจริงๆ โดยผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างอิสระด้วย
บุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ เอไอเอส บอกว่า สามารถมาสัมผัสประสบการณ์ “AIS Hyper-Reality Experience” ได้ที่ เอไอเอส ช็อป 3 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และเซ็นทรัล ลาดพร้าว
ความสนุกเหล่านี้ มีให้คนไทยทุกคนได้สัมผัส ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่เอไอเอส ช็อป ทั้ง 3 สาขา สนใจสามารถซื้ออุปกรณ์ และดาวน์โหลดคอนเทนต์เกมส์ได้ฟรี ทาง www.ais.co.th/aishyper-reality เพื่อนำกลับไปสนุกได้ที่บ้าน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา