กระแส Work from Home และ Learn from Home ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้การใช้งานเน็ตบ้านเพิ่มขึ้น และ AIS Fibre เกาะกระแสนี้ปั้นยอดขาย 3,957 ล้านบาท ในครึ่งแรกของปี 2021 พร้อมกินส่วนแบ่งตลาด 13.5%
AIS Fibre เติบโตในตลาดเน็ตบ้านต่อเนื่อง
กิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ AIS กล่าวว่า การใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือเน็ตบ้าน ในปี 2020 มีจำนวนกว่า 11.48 ล้านราย หรือคิดเป็น 51.6% ของจำนวนครัวเรือนในประเทศไทย แต่ด้วยการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ความต้องการเน็ตบ้านในตลาดยังเติบโตอยู่
“คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเน็ตบ้านในประเทศไทยปี 2021 จะเพิ่มเป็น 12.98 ล้านราย คิดเป็น 57.6% ของครัวเรือนในไทย และนั่นคือโอกาสของ AIS Fibre ที่จะเติบโตในตลาดนี้ ซึ่งหากนับถึงไตรมาส 2 ปี 2021 บริษัทมีผู้ใช้งาน 1.54 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่มีผู้ใช้บริการ 1.34 ล้านราย”
นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2015 AIS Fibre ยกระดับการทำตลาด และมีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 13.5% ของภาพรวมตลาดเน็ตบ้าน ทั้งยังสร้างรายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ที่ 3,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 21.1%
ภาพรวมการใช้งานเพิ่มขึ้น 40% ในช่วง COVID-19
สำหรับภาพรวมการใช้งานเน็ตบ้านของ AIS Fibre ตั้งแต่โรค COVID-19 ระบาดเมื่อไตรมาส 2 ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นถึง 40% ผ่านการใช้งานด้านความบันเทิง, ประชุม และเรียนออนไลน์ รวมถึงการสั่งอาหารออนไลน์ นอกจากนี้จำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์ในบ้านของผู้ใช้ยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน
เหตุนี้เอง AIS Fibre จึงยกระดับงานบริการ และพร้อมแก้ปัญหาภายใน 24 ชม. เพื่อให้การใช้งานไม่สะดุด รวมถึงการพัฒนา Service Innovation ในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อหลีกหนีจากตลาดปัจจุบันที่แข่งขันด้วยราคาเป็นหลัก ซึ่งไม่สะท้อนถึงความจริงของตลาดเน็ตบ้าน
24 ชม. ต้องจบปัญหา-ติดตั้งเร็ว-ตรงต่อเวลา
นอกจากการแก้ปัญหาภายใน 24 ชม. ทาง AIS Fibre ยังยกระดับงานบริการอีก 2 เรื่องคือ การติดตั้งที่รวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างเร็วที่สุด และมาตรฐานช่างนัดตรงต่อเวลา ทั้งในมุมการติดตั้ง และการให้บริการ ถือเป็นการนำจุดแข็งงานบริการของ AIS มาต่อยอดเพื่อสร้างแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน
สรุป
ปัจจุบันค่ายสีแดง และสีส้ม คือผู้กินส่วนแบ่งมากที่สุดสองอันดับแรกของตลาดเน็ตบ้าน และค่อนข้างทิ้งห่าง AIS Fibre พอสมควร แต่ส่วนตัวเชื่อว่า หากยกระดับงานบริการ และยังทำราคาออกมาได้จูงใจ พร้อมด้วยตัวเลือกการใช้งานตามแต่ละความต้องการของลูกค้า อีกไม่นาน AIS คงแข่งขันกับอีก 2 แบรนด์แรกได้สูสียิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา