AIS ปักธงกลาง Thailand Digital Valley สร้าง AIS EEC ต้นแบบเศรษฐกิจดิจิทัล

AIS เปิดศูนย์นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อธุรกิจ (AIS EEC) แห่งแรกในโครงการ Thailand Digital Valley ศรีราชา ชลบุรี เป็นแหล่งโชว์เคส และโซลูชันต่างๆ เพื่อภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน พร้อมติดอาวุธให้แข่งขันกับต่างชาติได้ เผยแผนธุรกิจในสองปีข้างหน้า ผ่านขุมพลัง 5 ดิจิทัล ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศ

ภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า AIS ได้เปิดศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจ หรือ AIS EEC (AIS Evolution Experience Center) ซึ่งถือว่าเป็นเอกชนหน่วยงานแรกที่ให้บริการในพื้นที่ของโครงการ Thailand Digital Valley ซึ่งทาง depa เป็นเจ้าของพื้นที่ซึ่งมีพันธกิจหลักในการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล และขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และอุตสาหกรรมดิจิทัลสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก การที่ AIS เปิดศูนย์นวัตกรรมดังกล่าว ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลาง การเรียนรู้เทคโนโลยีโครงสร้างดิจิทัล 5G และ Platform พร้อม สัมผัสประสบการณ์ ทดลอง ทดสอบ การใช้เทคโนโลยีกับการ Transform ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมได้เสมือนจริง

“ปี 2024 AIS ถือว่ายังเป็นปีที่มีความท้าทายจากผลกระทบจากสงคราม สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สภาพเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน เราจึงมองว่าการนำ ดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐาน และโครงข่ายอัจฉริยะที่ AIS เราเป็นผู้นำ มาเป็นเครื่องมือในการ Transform องค์กรด้วย ดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อให้องค์กรมีขีดความสามารถใหม่ๆ ที่พร้อมรับมือและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นอกจากนี้ AIS เผยแผนธุรกิจในปี 2024-2025 ที่จะชูแนวคิด AIS Business Digital Evolution: Sustainable Business for a Sustainable Nation ที่จะขับเคลื่อนนโยบายด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ให้เติบโต อย่างยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลก ผ่าน 5 ขุมพลังด้านดิจิทัล ประกอบด้วย

  • 5G Ecosystem ขุมพลัง 5G อัจฉริยะ นำเทคโนโลยี และความถี่ 5G ที่มีมากที่สุดในรูปแบบ Network Slicing,  Private Network นำมาใช้ในภาคอุตาสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุด โรงงาน Midea Smart Factory ผู้นำการผลิตเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ไฟฟ้ารายใหญ่ ได้เลือกใช้ AIS Dedicated 5G Private Network เป็นโครงข่ายหลัก นอกจากนั้นด้วยศักยภาพของ Paragon Platform แพลตฟอร์มที่รวบรวม 5G  โซลูชัน อาทิ  5G Network Orchestrator, MEC, Edge, Cloud,  Application Ecosystem ก็เริ่มมีกว่า 17 องค์กร ที่เริ่มใช้งานจริงแล้วเช่นกัน อาทิ Mitsubishi Electric, Schneider Electric, AI and Robotics Ventures เป็นต้น
  • Intelligent Network and Infrastructure ขุมพลังแห่งโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ ระบบบริหารองค์กรที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างครบครันตั้งแต่ On-Premise Cloud ไปจนถึงระดับไฮเปอร์สเกล นอกจากนี้ยังพร้อมให้บริการ ศูนย์ GSA ดาต้าเซ็นเตอร์ จากความร่วมมือของ Gulf, Singtel และ AIS ขนาดกว่า 20 เมกะวัตต์ ที่พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2025
  • AI and Data Analytics ขุมพลังแห่งปัญญาประดิษฐ์เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พร้อมให้บริการAnalytic X บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Data Insight) ที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ในการวางกลยุทธ์และสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างเจาะลึก
  • Digital Platform and APIs ขุมพลังแห่งการเชื่อมต่อ โดย AIS มีแพลตฟอร์ม AIS Open APIs มาตรฐานระดับโลกของ GSMA และ CAMARA ที่ทำให้นักพัฒนา สามารถออกแบบบริการที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึง AIS CPaaS – Communication Platform as a service แพลตฟอร์มการสื่อสารในรูปแบบบนคลาวด์ ให้สามารถสื่อสารได้แบบเรียลไทม์ ทั้ง เสียง วิดีโอ และ SMS โดยวันนี้ ไปรษณีย์ไทย ได้ใช้ระบบนี้ในการสื่อสารไปยังลูกค้า โดยที่ปลายสายขึ้นเป็นเบอร์กลางของไปรษณีย์ไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าอีกด้วย
  • Industry Transformation ขุมพลังการยกระดับภาคอุตสาหกรรม ส่งเสริม และสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปทรานสฟอร์มองค์กร ในพื้นที่ EEC อย่างเป็นรูปธรรม

เปิดศูนย์ AIS EEC ศูนย์กลางเรียนรู้ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

พร้อมกันนี้ AIS ได้สร้างศูนย์การเรียนรู้ AIS EEC – Evolution Experience Center หรือ ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจ AIS EEC ถือเป็นเอกชนรายแรกในพื้นที่โครงการ Thailand Digital Valley ภายในพื้นที่ EEC เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยถือเป็นโชว์เคสที่นำเทคโนโลยีต่างๆ ของ AIS มาจัดแสดงให้เห็นถืงเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะ Transform ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมได้เสมือนจริง พร้อมเปิดให้เยี่ยมชมได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยได้จัดแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อธุรกิจ อาทิ 5G, Cloud, AI & Data Analytics, Digital Platform ต่างๆ ทั้งหมด 4 โซน ดังนี้

    1. Digital Infrastructure & Platform
      • 5G Network & Cloud
      • Communication Platform (CPaaS & Open API)
      • Data Analytic Platform
    2. Digital Industry Evolution
      • Smart Manufacturing
      • Smart Property & Retail
    3. Sustainable Nation
      • Smart City and Public Sector Service
      • Smart Argriculture
      • Smart Health
    4. Modern Business Transformation
      • Smart Solution for Business
      • IoT Solution

“จากการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามั่นใจว่า จะสามารถใช้ศักยภาพของดิจิทัลเทคโนโลยีมาสนับสนุนและช่วยทรานส์ฟอร์มภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านเครื่องมือ และโซลูชันส์ที่ตอบโจทย์ ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายการทำงานครั้งนี้ไม่เพียงขับเคลื่อนการเติบโตเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืน อันจะเป็นแรงส่งสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้มีขีดความสามารถใหม่ๆ สร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบันและอนาคต” นายภูผา กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา