การระบาดของโรค COVID-19 เป็นวิกฤตของหลายอุตสาหกรรม และองค์กรต่างๆ ก็พยายามปรับตัวเพื่ออยู่รอดในวิกฤตนี้ แต่แค่ตัวเองอยู่รอดคงไม่ได้ เพราะประเทศต้องได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ AIS กำลังเดินหน้า
ฝ่าวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกัน
AIS คือหนึ่งในองค์กรที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรค COVID-19 ระบาด เพราะต้องปิดศูนย์บริการเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศจากทั้งหมด 600-700 สาขา ทั้งการทำตลาดก็ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนปกติ นอกจากนี้การจัดงานเปิดวิสัยทัศน์ประจำปีอย่าง AIS Vision ก็ไม่สามารถจัดได้
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS เล่าให้ฟังว่า แม้จะได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19 จนพนักงานกว่า 80% จากทั้งหมดกว่า 10,000 คนต้องทำงานที่บ้าน และการติดตั้งโครงข่ายในเวลากลางคืนก็ทำไม่ได้ แต่บริษัทยังพร้อมเดินหน้า และช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้ผ่านวิกฤตนี้
“AIS เป็น Digital Service Provider และเวลานี้บริการดิจิทัลต่างๆ นั้นมีความจำเป็นมาก ดังนั้นการนำความเชี่ยวชาญของเราไปช่วยแก้วิกฤตนี้ก็คงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง โดยเฉพาะฝั่งที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขที่ต้องทำงานหนักช่วงนี้ เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโรค COVID-19”
ลูกค้า-พนักงาน-ประเทศ ต้องได้ประโยชน์
สำหรับแนวทางในการผ่านวิกฤต COVID-19 ของ AIS นั้นประกอบด้วย 3 เรื่องคือ
- การดูแลลูกค้า ทาง AIS มีการดูแลโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ตบ้านให้มีคุณภาพสูงสุดตลอดเวลา แต่ด้วยจำนวนการใช้งานที่เพิ่มขึ้น 20% จากเวลาปกติ ทำให้ AIS ลงทุนเพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งานอีก 30% ทั้งยังพัฒนาช่องทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยกระดับบริการสิทธิประโยชน์ด้วย
- การดูแลพนักงาน AIS เป็นองค์กรแรกๆ ที่เริ่มต้นควบคุมการแพร่เชื้อภายในอาคารสำนักงาน และช่วงนี้ที่โรค COVID-19 ระบาดมากขึ้น AIS ก็แบ่งพนักงานเป็น 2 ทีม พร้อมกับจัดตั้งสถานที่ใหม่เพื่อรองรับการทำงานนอกสถานที่ โดยปัจจุบันพนักงาน AIS นั้นทำงานที่บ้านถึง 80% ส่วนที่เหลือยังต้องเข้า เช่นฝ่ายคอลเซ็นเตอร์
- การดูแลประเทศไทย สุดท้าย AIS ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อติดตั้งโครงข่าย 5G ในโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 20 แห่งในกรุงเทพ และภายในสิ้นเดือนเม.ย. จะเพิ่มอีก 130 แห่งในกรุงเทพ และปริมณฑล กับ 8 แห่งในต่างจังหวัด รวม 158 แห่ง นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพ 4G และ AIS WiFi ด้วย
“การดูแลประเทศไทย AIS ขอเริ่มที่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวสาธารณะสุขก่อน เพราะคนในอุตสาหกรรมนี้คือผู้เสียสละ โดยนอกจากการลงทุนติดตั้งโครงข่าย 5G แล้ว AIS ยังพัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์เพื่อส่งมอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ โดยภายในเดือนเม.ย. จะส่งมอบทั้งหมด 21 ตัว ใน 20 โรงพยาบาล”
แผนธุรกิจไม่เปลี่ยน เป้ารายได้ไม่ลด
อย่างไรก็ตามแผนธุรกิจที่เกี่ยวกับการขยายโครงข่าย 5G ของ AIS นั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ส่งมาจากต่างประเทศแล้ว และมีทีมงานพร้อมติดตั้งตลอดเวลา นอกจากนี้การช่วยเหลืออุตสาหกรรมอื่นๆ ทาง AIS ก็มีแผนอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังไม่ปรับเป้ารายได้ปี 2563 เพราะมีการปรับแผนธุรกิจต่างๆ รองรับไว้แล้ว เช่นการออกแพคเกจใหม่สำหรับการทำงานที่บ้านโดยเฉพาะ รวมถึงการลดต้นทุนต่างๆ ด้วยบริการดิจิทัล และหลังจากนี้จะหารูปแบบธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจช่วงหลังวิกฤต COVID-19 ด้วย
“ผู้บริโภคน่าจะเห็นประโยชน์จาก 5G ได้มากขึ้นในช่วงวิกฤต COVID-19 เพราะในโรงพยาบาลเริ่มมีการใช้งานบ้างแล้ว แต่ในมุมผู้บริโภคโดยตรงนั้นอาจยังไม่เห็นนัก เพราะโทรศัพท์มือถือที่รองรับยังมีราคาสูง และมีแต่เรื่องความเร็วที่ตอบโจทย์ได้”
สรุป
การปรับตัวในช่วงวิกฤต COVID-19 ถือเป็นเรื่องจำเป็น แต่แค่องค์กรปรับตัวอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะต้องนำประโยชน์ของธุรกิจตัวเองมาช่วยให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้ด้วย ซึ่ง AIS เองก็สามารถทำเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และหลังจากนี้น่าจะเห็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเดินหน้าแผนในลักษณะนี้เช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา