‘ไทยแอร์เอเชีย’ ทุบสถิติ กินส่วนแบ่ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เปิด 6 เส้นทางใหม่ รับเทรนด์ตลาดอินเดียมาแรง

ไทยแอร์เอเชียเห็นเทรนด์ตลาดอินเดียกำลังมาแรง ขณะที่จีนยังเป็นตลาดหลักที่คาดว่ากำลังซื้อจะค่อยๆ ทยอยกลับมา ฝั่งคนไทยนิยมไปจีนมากขึ้นเพราะฟรีวีซ่า 

[ ครึ่งแรกของปี จีน อินเดีย อาเซียน โดดเด่น ]

ธันย์สิตา อัครฤทธิภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เล่าให้ฟังถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ที่ผ่านมาว่า ตอนนี้สัดส่วนผู้โดยสารเส้นทางนอกประเทศอยู่ที่ 82% เมื่อเทียบกับปี 2019 ช่วงก่อนโควิดแล้ว ขณะที่ในบางประเทศได้เกินช่วงก่อนโควิดไปแล้วด้วย

ส่วนอัตราขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยของครึ่งแรกปีนี้อยู่ที่ 89% ตลาดโดดเด่นยังเป็นจีน อินเดีย และอาเซียน โดยมีอัตราขนส่งผู้โดยสาร ดังนี้

  • จีน อัตราขนส่งผู้โดยสาร 92% มีจำนวนที่นั่ง 55% เทียบกับก่อนโควิด
  • อินเดีย อัตราขนส่งผู้โดยสาร 91% มีจำนวนที่นั่ง 116% เทียบกับก่อนโควิด
  • อาเซียน อัตราขนส่งผู้โดยสาร 89% มีจำนวนที่นั่ง 88% เทียบกับก่อนโควิด

ในครึ่งปีที่ผ่านมา แอร์เอเชียได้ขนส่งผู้โดยสาร

  • จีน 15% จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 3.4 ล้านคน
  • มาเลเซีย 15% จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 2.4 ล้านคน
  • อินเดีย 20% จากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 1 ล้านคน

สำหรับยอดจองในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างดี แต่พฤติกรรมผู้บริโภคมีทิศทางไปในเชิงซื้อตั๋วเครื่องบินแบบกะทันหันและเดินทางระยะทางสั้นๆ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปยังจีนเพราะนโยบายฟรีวีซ่า 

ตอนนี้แอร์เอเชียกินส่วนแบ่งการตลาด 40% ในตลาดการบินระหว่างประเทศแล้ว ถือว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ 

ตลาดอินเดียเติบโต รับเศรษฐกิจเดินหน้าพัฒนา

ภาพรวมของเส้นทางการบินเติบโตมากหลักๆ มาจากมาตรการของรัฐบาล เช่น ฟรีวีซ่า การเจราจาสิทธิการบิน ทำให้ในช่วงนี้มีตลาดที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะอินเดียที่กำลังมาแรง

ปัจจุบันคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่สนใจประเทศอินเดียมากขึ้นเพราะมีความแตกต่างโดดเด่นจากประเทศอื่น ขณะที่ทางฝั่นคนอินเดียเอง คนท้องถิ่นเริ่มใช้จ่ายมากขึ้นในภาพรวมเพราะเศรษฐกิจกำลังจะเข้าสู่ช่วงพัฒนา มีสินค้าแบรนด์เนม การกิน การใช้ เปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก อีกส่วนหนึ่งมาจากที่อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นอันดับ 1 แล้วด้วย

สถานที่ยอดนิยมของคนอินเดียที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมักจะเป็นจังหวัดที่มีทะเล เช่น ภูเก็ต กระบี่ และพัทยา แต่ส่วนใหญ่มักจะเดินทางมาลงที่กรุงเทพฯ แล้วต่อรถไปมากกว่า 

ทั้งนี้ แอร์เอเชียมองว่าตลาดอินเดียต้องใช้เวลาอีกราว 5 ปีกว่าที่จะเป็นตลาดยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไทยได้ แต่ปัจจุบันเติบโต 10-20% ได้ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากแล้ว

อีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจ คือ เนปาล ที่คาดว่าน่าจะมีคนไทยไปมากกว่าอินเดียเพราะเป็นเส้นทางเอเวอเรสต์จากกลุ่มที่ชอบการเดินทางธรรมชาติ และกลุ่มที่มีความสนใจเรื่องศาสนา วัฒนธรรม ที่มีความคล้ายกันกับไทย

ส่วนเวียดนามยังเป็นตลาดที่แข็งแรงมาก มีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 90% 

แอร์เอเชียยังมองว่า จีนยังเป็นตลาดหลักของเส้นทางต่างประเทศและของไทย กำลังซื้อของจีนเริ่มกลับมาแล้ว แต่ภาครัฐจีนก็ยังมีโยบายเที่ยวในประเทศเหมือนกัน ส่วนคนไทยมีแนวโน้มที่จะเข้าไปท่องเที่ยวจีนมากขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่าราว 20% 

เปิดเส้นทางใหม่รับเทรนด์ตลาดอินเดีย-อาเซียน

เพราะการเติบโตของตลาดอินเดียและอาเซียน แอร์เอเชียจะเริ่มให้บริการเส้นทางการบินใหม่ล่าสุด 3 เส้นทางด้วยกัน คือ

  • กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – ไฮเดอราบัด ประเทศอินเดีย (4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) เริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ราคาเริ่มต้นที่ 2,990 บาทต่อเที่ยวบิน 
  • ภูเก็ต-เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) เริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ราคาเริ่มต้นที่ 1,550 บาทต่อเที่ยวบิน
  • ดอนเมือง-ฟูก๊วก ประเทศเวียดนาม เปิดให้บริการไปแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567  

แอร์เอเชียตั้งเป้าว่าในเดือนสิงหาคมจะทยอยเปิดตัวอีก 3 เส้นทางใหม่ ระหว่างประเทศ รวมเป็น 6 เส้นทางในไตรมาสที่ 3 นี้ (กรกฎาคม-กันยายน) โดยเน้นตลาดอินเดียและอาเซียนที่กำลังเติบโต

เป้าปี 2024 ขนส่งผู้โดยสาร 22 ล้านราย

แอร์เอเชียตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในช่วงสิ้นปีนี้ จำนวนที่นั่งของเส้นทางการบินระหว่างประเทศจะกลับมาฟื้นตัวได้ 85% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ส่วนตัวเลขอัตราขนส่งผู้โดยสารคาดว่าจะอยู่ที่ 87%

ในปีนี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารที่เดินทางกับแอร์เอเชียทั้งหมด 21-22 ล้านราย ในจำนวนเป็นผู้โดยสารที่มาจากต่างประเทศ 8-9 ล้านรายหรือเติบโตประมาณ 20%

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา