Tony Fernandes ผู้ก่อตั้ง AirAsia Group เริ่มเรียกร้องให้หลากประเทศในเอเชียเริ่มเปิดประเทศได้แล้ว เพราะการจำกัดการเดินทางอย่างเข้มข้นต่อไปอาจจะทำให้เกิดการปลดพนักงานมากยิ่งขึ้น
Fernandes กล่าวว่า AirAsia อาจจะต้องปรับลดขนาดองค์กรลง หากว่าหลายประเทศยังปิดประเทศ ปิดพรมแดน ปิดน่านฟ้าต่อไป เขาหวังว่าจะไม่ต้องลดขนาดองค์กรลง แต่มันก็มีปัจจัยต่างๆ หลายประการที่ต้องรับผิดชอบ และทางเลือกอาจไม่มากพอ สายการบินได้ปลดพนักงานออกไปแล้วราว 30% ในปีนี้ ราวๆ 20,000 คนตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา AirAsia Group มีธุรกิจอยู่ในมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อินเดีย และฟิลิปปินส์
AirAsia ต้องเผชิญกับปัญหากระแสเงินสด ซึ่งต้องได้รับความช่วยเหลือทั้งจากผู้ให้กู้และต้องปรับโครงสร้างหนี้ด้วย ในระยะสั้น บริษัทจำเป็นต้องหารือกับผู้ให้กู้รายใหญ่ในการปรับโครงสร้างหนี้ต่อไป ทั้งนี้ มีการประเมินว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะให้ปิดการเดินทางระหว่างประเทศต่อไปจนกว่าจะสิ้นปี Fernandes กล่าวว่า ผู้นำควรที่จะกล้า เพื่อจะให้การเดินทางระหว่างประเทศกลับมาได้
จากนั้น Fernandes ก็พูดถึงประเทศที่มีจำนวนคนติดเชื้อรายวันน้อย ควรจะเปิดพรมแดนเพื่อให้มีการเดินทางข้ามไปมาระหว่างกันได้ พรมแดนมาเลเซียและไทยควรจะเปิดเหมือนกับที่พรมแดนมาเลเซียและสิงคโปร์เปิดมาตั้งแต่ 17 สิงหาคมแล้วสำหรับการเดินทางที่จำเป็น
Fernandes กล่าวว่า ไทยมีคนติดเชื้อน้อยกว่า 10 เคสต่อวัน ทำไมมาเลเซียและไทยไม่จัดให้มี green-lane (ข้อตกลงเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ในที่นี้ หมายถึงการเดินทางแลกเปลี่ยนกัน) เขามองว่าทั้งสองประเทศต่างก็ไม่ได้เป็นภัยระหว่างกัน เวียดนาม กัมพูชา และลาว ควรจะเปิดพรมแดนให้มีการเดินทางระหว่างประเทศได้แล้ว ทั้ง Fernandes และผู้ร่วมก่อตั้งอีกราย Kamarudin Meranun ต่างก็งดรับเงินเดือน ขณะที่พนักงานก็ลดเงินเดือนถึง 70%
ไตรมาส 2 AirAsia ขาดทุนราว 237 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.37 พันล้านบาท ถ้าครึ่งปีแรกขาดทุนราว 1.8 พันล้านริงกิตหรือประมาณ 1.34 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปี 2019 อยู่ที่ 111.78 ล้านริงกิต หรือประมาณ 834 ล้านบาท
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา