เหล่าเอเยนซี่หันมาใช้ Co-working Space แทนเช่าออฟฟิศมากขึ้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

กลายเป็นเทรนด์ระดับโลกที่เหล่าบรรดาดิจิทัล เอเยนซี่หันมาใช้ co-working Space แทนการซื้อ หรือเช่าสำนักงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และเปิดโอกาสในการทำงานร่วมกับบริษัทอื่นได้ด้วย

เทรนด์ความนิยมของ Co-working Space ได้เห็นมาหลายปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นบุคคลทั่วไป หรือกลุ่มคนทำงานฟรีแลนซ์ แต่ยุคนี้พบว่ากลุ่มสตาร์ทอัพ หรือแม้แต่ดิจิทัล เอเยนซี่ก็หันมาใช้บริการ Co-working Space แทนการเช่าสำนักงานแพงๆ แล้วด้วย

ยกตัวอย่างเช่น Jellyfish เป็นดิจิทัล เอเยนซี่สัญชาติอังกฤษ เริ่มมีแนวคิดที่จะขยายสำนักงานแห่งที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ในนิวยอร์ก จึงได้ตัดสินใจเลือกใช้บริการ WeWork ที่เป็น Co-working Space โดยสามารถเลือกจ่ายได้เฉพาะพื้นที่ที่ต้องการเท่านั้น และยังสามารถทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆ ได้อีกด้วย

อีกปัจจัยที่ส่งผลทำให้ Co-working Space ได้รับความนิยมมากขึ้น มาจากพื้นที่อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงมากขึ้น พื้นที่เป็นเงินเป็นทอง ซึ่ง Co-working Space เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์หลายๆ อย่าง

WeWork เป็น Co-working Space สำหรับแชร์พื้นที่ทำงาน ตอนนี้มีอายุ 8 ปีแล้ว กำลังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจของเหล่าดิจิทัล เอเยนซี่เลยทีเดียว ทำให้ประหยัดต้นทุนในการเช่าสำนักงานได้ ยิ่งในเมืองใหญ่ๆ อย่าง New York ที่มีค่าเช่าสูงลิบ แถมยังได้วัฒนธรรมในการทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆ ด้วย

ยุคนี้เหล่าเอเยนซี่ต้องรัดเข็มขัดอย่างหนัก เพราะต้องเจอภาวะแรงกดดันจากแบรนด์ต่างๆ ที่มีการลดค่าใช้จ่ายในการลงสื่อโฆษณา หรือมีการทำเอเยนซี่เป็นของตัวเอง ทำให้ดิจิทัล เอเยนซี่ต้องดิ้นรนในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าสำหนักงานด้วยการใช้ Co-working Space ได้สิ่งอำนวยความสะดวกจากพื้นที่ส่วนกลางด้วย

โดยที่ Geometry Global ในเครือ WPP ที่มีลูกค้ารายใหญ่อย่าง Coca-Cola, SC Johnson และ Unilever ได้ทำการย้ายสำนักงานในรูปแบบสแตนอโลนจาก Rio de Janeiro เข้าสู่ WeWork ในเดือนมีนาคม กลายเป็นเอเยนซี่ในเครือ WPP แห่งแรกที่เริ่มทำ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มหาศาล

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา