ปัจจุบันค้าปลีกไอทีเกือบทุกรายในประเทศไทยได้สิทธิ์จำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ล หนึ่งในนั้นคือ บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท หรือ แอดไวซ์ ค้าปลีกไอทีที่แข็งแกร่งในพื้นที่ต่างจังหวัด ผ่านเครือข่ายสาขาสิ้นไตรมาส 2 ปี 2024 รวมกว่า 111 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯ และปริมณฑล 16 สาขา และต่างจังหวัด 95 สาขา
เมื่อได้สิทธิ์จำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ล จึงไม่แปลกที่แอดไวซ์จะได้อานิสงส์จากการจำหน่ายสมาร์ตโฟนได้เพิ่มขึ้น เพราะในปี 2023 รายได้จากธุรกิจสมาร์ตโฟนของบริษัทอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม แต่สิ้นไตรมาส 3 ปี 2024 จะพุ่งไปที่ 10% หรือเรียกว่าโตเท่าตัวก็ว่าได้
การได้สิทธิ์ในการจำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ล รวมถึงการเปิด Advice iStore ร้านจำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ลเต็มรูปแบบที่ จ. พิจิตร แห่งแรกจะช่วยขับเคลื่อนยอดขายให้ค้าปลีกที่เชี่ยวชาญพื้นที่ภูธรอย่างไร Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ ณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท ดังนี้
ดันยอดขายฝั่งมือถือให้เติบโต
บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท เติบโตมาจากการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ และถึงช่วงสมาร์ตโฟนเริ่มแพร่หลาย ค้าปลีกรายนี้เริ่มมียอดขายฝั่งสมาร์ตโฟนมากขึ้นเช่นกัน แต่ยังน้อยกว่ากลุ่มคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีอยู่มาก
ปี 2023 บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท มีรายได้รวม 13,524 ล้านบาท จำนวนนี้เป็นรายได้จากการจำหน่ายสมาร์ตโฟนราว 5% ซึ่งเวลานั้นบริษัทมีการจำหน่ายสมาร์ตโฟนทั้งฝั่งแบรนด์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และไอโอเอส รวมถึงสมาร์ตโฟนทั้งสองระบบปฏิบัติการจำหน่ายในรูปแบบ CE หรือคอร์นเนอร์ในสาขาของแอดไวซ์
ณัฎฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท เล่าให้ฟังว่า แนวโน้มการจำหน่ายสมาร์ตโฟนของบริษัทเติบโตไปด้วยดี โดยในไตรมาส 3 ของปี 2024 จะกินสัดส่วนเพิ่มเป็น 10% ของรายได้รวม โดยทั้งปีนั้นตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 5% จากปี 2024
เปิด Advice iStore เสริมภาพลักษณ์
ล่าสุด แอดไวซ์ เปิดตัว Advice iStore ร้านจำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ลเต็มรูปแบบ หรือ Mono Store จากเดิมที่จำหน่ายแบบ CE อย่างที่แจ้งไว้ข้างต้น โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่จังหวัดพิจิตร อยู่พื้นที่เดียวกับสาขาแอดไวซ์ปกติ โดยสินค้าที่จำหน่ายจะมี iPhone, iPad, Apple Watch, Mac รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ
“Advice iStore ถือเป็นอีกความสำเร็จของบริษัทในการทำตลาดค้าปลีกไอที” ณัฎฐ์ กล่าว โดยสาขาดังกล่าวพัฒนามาจากการเปลี่ยนพื้นที่สาขาเดิมใน จ. พิจิตร ให้มีพื้นที่ใหญ่ขึ้น และมีจุดสำคัญคือการมีที่จอดรถ เพราะเรื่องนี้ยังจำเป็นในการทำตลาดที่ต่างจังหวัด
สำหรับแผนในการขยายสาขาหลังจากนี้ของแอดไวซ์ บริษัทจะเน้นเปลี่ยนพื้นที่สาขาในต่างจังหวัดให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการจำหน่ายสินค้าได้มากกว่าเดิม ส่วนสาขาในศูนย์การค้าจะมีการไปเพิ่มในบางแห่งที่จำเป็นเท่านั้น และยังเน้นการเปิดใหม่ในรูปแบบ Standalone มากกว่า
เตรียมเพิ่มการจำหน่ายโซลาร์เซลล์
ขณะเดียวกัน แอดไวซ์มีแผนทำตลาดสินค้ากลุ่มโซลาร์เซลล์เพิ่ม ผ่านการเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์หัวเว่ย โดยจะเริ่มรุกตลาดอย่างเป็นทางการเดือน พ.ย. 2024 ผ่านการทำตลาดกับลูกค้าทั่วไป หรือ Home Use และกลุ่มลูกค้าพาณิชย์ เช่นกลุ่มที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร
“ก่อนหน้านี้เรามีการทดลองตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เดือน พ.ย. 2024 จะรุกตลาดเต็มรูปแบบ และหวังเป็นอีกส่วนในการขับเคลื่อนรายได้ของแอดไวซ์หลังจากนี้” โดยการทำตลาดนั้น แอดไวซ์จะเน้นให้คำปรึกษา และสำรวจก่อนติดตั้งจริงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงสุด
ปัจจุบันแอดไวซ์แบ่งธุรกิจออกเป็น 3 ส่วนคือ ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจค้าส่ง และธุรกิจบริการ โดยไตรมาส 2 ปี 2024 แอดไวซ์ มีรายได้รวม 3,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.35% แบ่งเป็นธุรกิจค้าปลีก 2,184 ล้านบาท, ธุรกิจค้าส่ง 1,184 ล้านบาท และธุรกิจบริการ 36 ล้านบาท
โตเพราะถึงรอบการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์
ณัฎฐ์ ย้ำว่า การเติบโตของธุรกิจมีปัจจัยเรื่องการถึงรอบการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ ควบคู่กับเรื่อง AI โดยเฉพาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ที่ราคา 30,000-40,000 บาท จะคิดเป็น 40% ของลูกค้าที่เข้ามาซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
“แม้จริง ๆ เครื่องระดับ 20,000 บาท ก็มี AI แล้ว แต่ลูกค้ายินดีที่จะขยับมาซื้อเครื่องระดับกลางมากกว่า แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อสินค้าไอทีที่เริ่มกลับมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเครื่องไปในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ที่พวกเขานั้นถึงรอบที่ต้องเปลี่ยนเครื่องแล้ว”
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบ เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เลื่อนออกไป รวมถึงระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นใหม่ ยังเลื่อนออกไปเช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายสินค้าไอทีเอาไว้ก่อน ส่วนกลุ่มที่ออกมาจับจ่ายมีโปรแกรมการผ่อนชำระหลากหลายช่องทางมาช่วยเพิ่มโอกาสการตัดสินใจ
ลดพอร์ตแพลตฟอร์ม เพราะ Brand.com ยังสำคัญ
ด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เริ่มมีบทบาทในการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าไอที ซึ่งแอดไวซ์เคยจำหน่ายบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ แต่ปัจจุบันเริ่มลดความสำคัญในการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มเหล่านั้น และหันไปให้ความสำคัญกับ Brand.com หรือ advice.co.th มากกว่า
อ้างอิงจากเอกสารคำอธิบาย และการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการไตรมาส 2 ปี 2024 พบว่า ยอดขายออนไลน์ของแอดไวซ์ในเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 116 ล้านบาท พร้อมย้ำเรื่องความไม่จำเป็นในการร่วมงาน Commart ด้วยการทำกิจกรรม Advice IT Expo Online ในเวลาใกล้เคียงกับงานดังกล่าวเพื่อกระตุ้นยอดอีกทาง
ส่วนภาพรวมตลาดไอทีในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ในมุมของแอดไวซ์ยังดูทรง ๆ อาจเพราะพิษเศรษฐกิจ แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 จะมีความคึกคักมากขึ้นผ่านปัจจัยข้างต้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ในราคาระดับกลาง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา