กลายเป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬาที่เติบโตอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา หลัง Adidas ยังคงมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดสูงขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้แบรนด์เจ้าถิ่น Nike และ Under Armour เหนื่อยไปตามๆ กัน
หยุดยาก เพราะลงทุนทีไรก็ถูกต้อง
การจะหยุด Adidas ในช่วงเวลานี้ค่อนข้างยากจริงๆ เพราะลงทุนในตลาดที่ถูกต้องเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้า Vintage ภายใต้แบรนด์ Originals, การออกกำลังกาย (Training), วิ่ง และบาสเก็ตบอล ทำให้ยอดขายในสหรัฐฯ นั้นเติบโตถึง 35% และส่วนแบ่งการตลาดก็เพิ่มเป็น 10% จากเดิมที่อยู่แค่ 3.5% เมื่อไม่กี่ปีก่อน
Mark King ผู้จัดการประจำประเทศสหรัฐอเมริกาของ Adidas เล่าให้ฟังว่า กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับการวิ่งยังเป็นรายได้อันดับที่ 1 ของบริษัท เพราะกระแสสุขภาพนั้นเติบโตไปทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มรองเท้า Ultra Boost ที่สามารถจำหน่ายได้จำนวนมาก ผ่านจุดเด่นเรื่องการออกแบบ และประสิทธิภาพในการใช้งาน
“เราหวังสูงที่ 15% ให้ได้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้เราเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ Momentum ยังเข้ามาที่เราอยู่ ยิ่งกระแสสุขภาพ และเทรนด์เรื่องแฟชั่นที่เราทำได้ถูกต้อง ทำให้เรามีโอกาส และสินค้ากลุ่ม Training ของเราที่ปัจจุบันมียอดขายอันดับ 2 ของบริษัท ก็น่าจะทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
ทั้งนี้ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาเกือบทุกรายเริ่มต้นจากรองเท้ากีฬา หลังจากนั้นก็ขยายไปสู่กลุ่มเครื่องแต่งกาย ซึ่ง Adidas ก็เดินหน้าในรูปแบบนี้เช่นกัน โดยเฉพาะจากฝั่งสินค้าแฟชั่นที่จะช่วยจูงใจไปยังสินค้าที่ใช้งานออกกำลังกายได้จริงในอนาคต ในทางกลับกัน Nike และ Under Armour ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกามากเท่าไร
สรุป
เกมของ Adidas ยังคงทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือการทำได้ตรงจริตแฟชั่นของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี แต่ในอนาคตแบรนด์อื่นๆ ก็เริ่มจับทางนี้ได้แล้ว เช่น Nike ที่เพิ่งออกรุ่น Air VaporMax และ React จนทำให้หลายๆ คนเริ่มกลับมาที่แบรนด์นี้มากขึ้น ดังนั้นคงต้องติดตามกันยาวๆ ครับ
อ้างอิง // Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา