Adidas เปิดเผยยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปีในอเมริกาเหนือ พบว่ามียอดขายเติบโต 21% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่คู่แข่ง 2 ราย Nike และ Under Armour มียอดขายลดลง ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของเขาเองทั้งคู่
การที่ Adidas มียอดขายพุ่งเอาๆ นั้น เป็นผลมาจากการทำการตลาดที่เข้มข้นที่ช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงการได้เป็นพาร์ทเนอร์กับเซเลบริตี้อย่าง Pharrell Williams ยิ่งทำให้แบรนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ทั้งนี้การที่เทรนด์การแต่งตัวของผู้บริโภคเริ่มขยับมาที่สไตล์ Casual street wear ยิ่งช่วยส่งเสริมแบรนด์เข้าไปใหญ่ เพราะทำให้รองเท้ารุ่น Stan Smith ขายดีมากขึ้น
Kasper Rorsted, CEO ของ Adidas ได้บอกว่า “ผลประกอบการของบริษัทเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ และยังคงโฟกัสอยู่ที่ตลาดอเมริกาเหนือ จีน และตลาดอีคอมเมิร์ซมากขึ้น”
ถ้าดูภาพรวมของยอดขายทั่วโลกของ Adidas มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% มีรายได้สุทธิเติบโต 17% ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างพอใจกับอัตรากำไรที่เพิ่มมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงมูลค่าของ Adidas ในอเมริกาเหนือ ยังเล็กกว่า Nike อยู่มาก มีรายงานว่าในปี 2017 Nike มีรายได้ 15,200 เหรียญ เทียบกับ Adidas ที่มีรายได้ 5,100 ล้านเหรียญ
แต่ในเรื่องของการเติบโต Nike เติบโตลดลง 6% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วน Under Armour มีการเติบโตลดลง 1% ส่วน Adidas เติบโตถึง 21%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา