การประท้วงเกี่ยวกับการเหยียดสีผิวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา และทั่วโลก ทำให้ Adidas ออกมายืนยันว่า การจ้างงานใหม่ในสหรัฐอเมริกาหลังจากนี้จะเป็นชาวลาติน หรือแอฟริกัน-อเมริกัน ถึง 30%
เริ่มออกตัวหลังพนักงานไม่พอใจ
ระหว่างที่ข่าวการเสียชีวิตของ George Floyd และช่วงเริ่มต้นของการออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องเกี่ยวกับการเหยียดสีผิว แบรนด์อย่าง Adidas กลับไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวอะไรมากนัก ต่างกับ Nike ที่แสดงออกอย่างชัดเจน เช่นการโพสต์แคมเปญใหม่บน Twitter ในชื่อ Don’t Do It
และ Adidas ก็ทำการ Retweet ข้อความดังกล่าวด้วย ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวอาจทำให้พนักงานใน Adidas ไม่พึงพอใจนักเกี่ยวกับการมีส่วนร่วม และสนับสนุนไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น จนที่สุดแล้วประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Adidas ก็ออกมาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องนี้
“การออกมาชุมนุมเกิดขึ้นมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว และมันเริ่มสร้างการรับรู้ให้กับบุคคลทั่วไป และแบรนด์ว่าจะต้องทำอย่างไร ซึ่ง Adidas ต้องการป้องกันไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น และต้องเป็นการช่วยกันป้องกันอย่างยั่งยืนด้วย” Kasper Rorsted ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Adidas กล่าว
หนึ่งในนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ของ Adidas คือการจ้างงานพนักงานใหม่ในสหรัฐอเมริกาจะเป็นชาวลาติน หรือแอฟริกัน-อเมริกัน 30% พร้อมกับเพิ่มงบประมาณเป็น 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 620 ล้านบาท) ใน 4 ปีหลังจากนี้เพื่อช่วยสนับสนุนกิจกรรมกีฬาในชุมชนชาวแอฟริกัน-อเมริกัน
สรุป
แม้จะออกมาช้า แต่สุดท้ายแล้วการเคลื่อนไหวของ Adidas ก็แสดงให้เห็นว่าแบรนด์เอาจริงกับเรื่องนี้ และไม่อยากให้การเหยียดสีผิวเกิดขึ้นในอนาคต ยิ่งในวงการกีฬา การเหยียดสีผิวยังเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมันน่าจะดีไม่น้อยถ้า Adidas มีส่วนร่วมช่วยให้เรื่องดังกล่าวหายไปได้อย่างยั่งยืน
อ้างอิง // Japan Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา