ธุรกิจ Digital Agency นั้นไม่ง่ายเลย แม้ตัวมูลค่าโฆษณาดิจิทัลจะเติบโตถึง 21% เพราะมันมีรายเล็กๆ เกิดขึ้นมากมาย และตัวแบรนด์สินค้าก็มีความต้องการมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ Adapter Digital ต้องปรับตัวเองอีกครั้ง
ลูกค้าเต็มตลอดคือเวลาดีในการปรับตัว
Adapter Digital Group คือหนึ่งใน Digital Agency ระดับผู้นำในตลาดประเทศไทยตอนนี้ ผ่านพนักงาน 135 คน และมีแบรนด์สินค้าต่างๆ เข้ามาใช้บริการเกือบทุกอุตสาหกรรม ซึ่ง “อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์” ประธานกรรมการบริหารของ Adapter Digital Group ก็ออกมาบอกเองว่า ตอนนี้ลูกค้าเข้ามาแทบจะเต็มตลอดเวลา
“ก่อนหน้านี้เราค่อนข้างมีปัญหาเรื่องลูกค้าเข้ามาเต็มตลอดเวลา และบางช่วงในปีนี้ก็ยังมีปัญหาอยู่ ทำให้เราต้องรีบปรับตัว เพื่อโอกาสการเติบโตในอนาคต แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้ต้องการให้เราทำแค่เรื่องโฆษณา แต่มันคือการเป็นที่ปรึกษาในเรื่องต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ” อรรถวุฒิ กล่าว
จึงเป็นที่มาของการปรับตัวจาก Digital Agency ที่เน้นหนักเรื่องโฆษณา สู่ Holistic Solution ของ Adapter Digital Group ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฝ่ายดูแลวิเคราะห์ Data ของลูกค้า และฝ่ายที่ช่วยติดอาวุธให้ลูกค้าเพื่อทำ Market Expansion ได้ดีกว่าเดิม ซึ่งบริษัท Recruit คนเข้ามาในตำแหน่งเหล่านี้ตั้งแต่ต้นปี 2561
Analytica และ Innovation คือคำตอบ
“ตอนนี้เราตั้ง BU (Business Unit) ใหม่ขึ้นมา 2 ตัว ซึ่งอนาคตมันจะเป็นบริษัทย่อยของกลุ่ม Adapter ตัวแรกชื่อ Adapter Analytica ที่จะดูแลเรื่องวิเคราะห์ข้อมูลทั้งที่ได้จากลูกค้า และภายนอก เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ให้ลูกค้า กับ Adapter Innovation ที่ทำงานแบบ Startup เพื่อสร้างสรรค์อาวุธยุคดิจิทัลให้ลูกค้า”
ในทางกลับกันเมื่อมองดูพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่แค่เสพบางสื่อ และอยู่ในทุกๆ ที่ที่ได้รับข่าวสารได้ ดังนั้นการวิเคราะห์ Journey ของผู้บริโภคตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทางจึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่บริษัทตั้งสองหน่วยธุรกิจนี้ขึ้นมา ไม่ใช่ติดอยู่แค่การทำธุรกิจรูปแบบเดิมๆ
“ปกติแล้ว Agency จะแยกกันทำงาน เช่นตำแหน่ง Creative ก็คิดงานไป หรือ Media ก็เจรจาธุรกิจไป แต่จากนี้มันไม่ใช่แล้ว ทุกคนที่ทำงานต้องเห็นเป้าหมายเดียวกัน เช่นหากรับงานลูกค้ามาหนึ่งราย ทุกฝ่ายก็ต้องคิดกันว่าจะประสานกันอย่างไรเพื่อให้ลูกค้าได้ผลลัพธ์ที่ต้องการในราคาที่เหมาะสม”
แบรนด์จะใช้ Agency น้อยลงในอนาคต
อย่างไรก็ตามในยุคนี้ที่แบรนด์สินค้าต่างๆ จะเรียนรู้เรื่องดิจิทัลมากขึ้น และเริ่มมีบางองค์กรลดการใช้งาน Agency แต่นั่นไม่ใช่มุมมองของ Adapter Digital ที่คิดว่า การใช้งาน Agency ของแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้ลดลง แต่ที่ลดลงคือจำนวน Agency ที่ทำงานกับแบรนด์นั้นๆ ต่างหาก
“ผมเชื่อว่าพอ Adapter Digital และ Agency รายใหญ่ๆ เริ่มปรับตัวเป็นคนที่มีบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมุม ความผูกพันมากกว่าเดิม มีความเป็น Partnership มากกว่าเดิม ซึ่งมันก็ดีกับทั้งสองฝั่ง เพราะเราก็จะเห็นภาพใหญ่ในการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และเติบโตไปด้วยกันได้จริง”
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะคุยกับลูกค้าในเรื่องนี้ เพราะบางรายยังติดปัญหาเรื่อง Digital Transformation ซึ่งมันขัดกับการเดินหน้าของ Adapter Digital อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการใช้งานข้อมูล และการให้บริษัทเข้ามาช่วยเหลือองค์กรให้ทำตลาดด้วยดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ใครทำได้ครบทุกบริการจะเป็นผู้ชนะในตลาด
“เชื่อว่า Agency ที่ทำได้ครบทุกบริการ และมี Capabilty เพียงพอก็จะเป็นผู้ชนะในตลาด เพราะแบรนด์ไม่ได้มองความ Speciality แล้ว แต่มองการทำงานแบบครบ Loop มากกว่า ซึ่งตอนนี้ Adapter Digital ก็อยากได้คนเพิ่มเป็น 180 คน เพื่อความเหมาะสมในการรองรับงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
นอกจากนี้บริษัทมีแผนเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือ AEC ด้วย โดยเฉพาะในลาว, กัมพูชา และเมียนมา รวมถึงจีน กับฮ่องกงด้วย ผ่านการกำหนดเป็นเป้าหมายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งช่วงแรกน่าจะเป็นแถบประเทศเพื่อนบ้านก่อน เพราะปัจจุบันองค์กรธุรกิจในประเทศไทยก็ไปทำตลาดในกลุ่มประเทศเหล่านี้แล้ว
“เมื่อรวมการตั้งทีมใหม่ และเป้าหมายการไป AEC ก็คาดว่าปี 2562 ตัวธุรกิจก็จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 43% เหมือนที่ทำได้ในปีนี้แน่ๆ ส่วนเรื่อง IPO นั้นยังไม่ใช่เป้าใหญ่ของเรา แต่ถ้าถึงจุดหนึ่งที่ต้องการเงินทุนเพื่อรองรับการขยายตัว ก็คงต้องเข้า ที่สำคัญเราไม่ทิ้งเรื่องดิจิทัลแน่นอน เพราะดิจิทัลคือลมหายใจของทุกคน” อรรถวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย
สรุป
การเดินหน้าของ Adapter Digital Group ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการ Digital Agency ที่ต้องเป็นได้ทุกอย่างในยุคนี้ ไม่ใช่โดดเด่นแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง รวมถึงเรื่องธุรกิจ Digital Agency ที่อยู่ยากในปัจจุบัน เพราะผู้บริโภคนั้นมีพฤติกรรมที่หลากหลายมากๆ ดังนั้นหากใครจะเดินเข้ามาทางนี้ต้องศึกษากันดีๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา