aCommerce เตรียมที่จะ IPO อีกภายใน 2 ปี ซึ่งบริษัทที่มีธุรกิจแนวเดียวกันนั้นได้เข้าตลาดหลักทรัพย์หลายๆ แห่งไปแล้ว สร้างความมั่นใจให้กับบริษัทว่าการ IPO ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดีแน่นอน
หลังจากการก่อตั้งบริษัทมา 5 ปี aCommerce บริษัทสัญชาติไทยได้ผลักดันให้แบรนด์ไทยก้าวเข้าสู่โลกของ E-commerce ให้ประสบความสำเร็จ แต่ล่าสุดบริษัทเตรียมที่จะวางแผน IPO ภายใน 2 ปีด้วย หลังจากที่ระดมทุนไปครั้งล่าสุดจาก Private Equity อย่าง KKR รวมไปถึงผู้ลงทุนรายอื่นๆ
เป้าหมายของบริษัทหลังจากการ IPO คือจะนำรายได้จากการระดมทุนไปพัฒนาแพลตฟอร์มที่ให้บริการข้อมูลครบวงจร เนื่องจากบริษัทหวังที่จะเป็นพาร์ตเนอร์ทางด้านการบริหารข้อมูลให้แก่แบรนด์ต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งข้อมูลของผู้บริโภคปัจจุบันมีมหาศาลมาก และแบรนด์ต่างๆ มักจะต้องพึ่งพาข้อมูลเหล่านี้เพื่อที่จะเข้าถึงผู้บริโภค
ยังไม่ได้เลือกตลาดใดตลาดหนึ่ง
พอล ศรีวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มและผู้ร่วมก่อตั้ง aCommerce กล่าวว่าปัจจุบันแบรนด์และผู้ผลิตสินค้าต่างๆ อยากที่จะร่วมงานกับบริษัทที่น่าเชื่อถือ ทำให้เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 ปีนี้ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ไหน ซึ่งกำลังตัดสินใจอยู่ระหว่าง SET ของไทย กับ SGX ที่สิงคโปร์ คาดว่าจะรู้ผลในปี 2019
Baozun Model
อีกเรื่องที่พอลได้กล่าวถึงคือ บริษัทที่มีโมเดลเดียวกับ aCommerce ประเทศจีนอย่าง Baozun ที่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม หรือแม้แต่ในสิงคโปร์ที่บริษัท Synagie ได้เข้าตลาดไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่การปรับตัวของ Singapore Post ที่หันมาในธุรกิจแนวๆ นี้ เช่นกัน
ยิ่งตลาด E-commerce ในอาเซียนมีความที่ไม่เหมือนใครสูง ทำให้ aCommerce มั่นใจในการที่จะ IPO ว่าจะประสบความสำเร็จแน่นอน
ตลาดยังโตได้อีก
พอลมองว่าตลาด E-commerce ไทยในปีหน้าจะยังสามารถเติบโตได้อีก 7-8% ต่อปี โดยคาดว่าในปีหน้าผู้เล่นใหม่ๆ จะแข่งขันกันมาก เขายังเสริมอีกว่าการขายแบบ B2C จะเริ่มกลมกลืนกับ C2C เข้าไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ในเรื่องของประเด็นสงครามการค้าทำให้บริษัทจีนเริ่มที่จะขยายแหล่งรายได้ใหม่ๆ มาที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น แทนที่สหรัฐอเมริกา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา