ใครจะรู้ว่าคนไทยกว่า 30% ไม่มีบัญชีเงินฝาก ล่าสุดภาครัฐอยย่าง ธนาคารประเทศไทย (ธปท.) เลย ดึงภาคเอกชนมาทำเรื่องดีๆร่วมกันคือ จะให้ทุกคนเข้าถึงบริการเงินฝากให้ได้ในโครงการที่ชื่อว่า “บัญชีเงินฝากพื้นฐาน”
วันนี้ (23 ก.ค. 2561) ธปท. ที่ต้องการให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น ก็เป็นเหมือนสื่อกลางให้ ธนาคารพาณิชย์ 14 แห่ง และ ธนาคารออมสิน รวมถึงธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์มาเซ็น MOU (บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ) ร่วมกันในโครงการ การให้บริการบัญชีเงินฝากเพื่อการเข้าถึงบริการทางการเงินขั้นพื้นฐาน” (บัญชีเงินฝากพื้นฐาน)
ฝั่ง วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าธปท. บอกว่า การสร้างความร่วมมือระหว่างธนาคาร เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงิน มีทัศนคติที่ดีเรื่องการออม สามารถต่อยอดไปถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ (เช่น เงินกู้ ฯลฯ) ซึ่งกลายเป็นโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
บัญชีเงินฝากพื้นฐาน คืออะไร?
ว่าง่ายๆ บัญชีเงินฝากพื้นฐาน เกิดขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนฝากเงินได้ง่ายขึ้น เพราะไม่มีขั้นต่ำในการฝากเงิน 0 บาทก็เริ่มเปิดบัญชีได้แล้ว ที่สำคัญต่อให้ไม่มีการเคลื่อนไหวในบัญชี ก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการรักษาบัญชี ซึ่งข้อนี้หลายคนน่าจะชอบ แถมยังเปิดบัตร ATM หรือบัตรเดบิตได้ฟรี (ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี)
คราวนี้จะฝาก โอน ถอน ชีวิตก็ง่ายขึ้น เพราะมีทั้งบัตร และบัญชีที่ไม่ต้องกังวล เพราะถึงไม่มีการเคลื่อนไหวในบัญชีก็ไม่ต้องเสียเงินค่าฝากเหมือนบัญชีอื่นๆ
บัญชีแบบใหม่นี้จะเริ่มใช้ในเดือนตุลาคม 2561 นี้ ระยะแรกจะเปิดให้บริการ ในประชาชนที่อยู่ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (สำหรับคนที่ลงทะเบียนโครงการนี้ไว้แล้ว) และผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
ปล. ธนาคารพาณิชย์ 14 แห่งที่เข้าร่วมได้ แก่ ธ.กรุงเทพ, ธ.กรุงไทย, ธ.กรุงศรีอยุธยา, ธ.กสิกรไทย, ธ.เกียรตินาคิน, ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย, ธ.ทหารไทย, ธ.ทิสโก้, ธ.ไทยเครดิตเพื่อรายย่อย, ธ.ไทยพาณิชย์, ธ.ธนชาต, ธ.ยูโอบี, ธ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, และ ธ. ไอซีบีซี (ไทย)
สรุป
ธนาคารพาณิชย์ 14 แห่ง ร่วมกับธนาคารภาครัฐอีก 2 แห่ง เตรียมเปิดบริการบัญชีเงินฝากพื้นฐานให้ใครๆก็ฝากเงินได้ โดยไม่เสียค่าธรรมในการรักษาบัญชี แถมเปิดบัตร ATM บัตรเดบิตฟรี แต่คำถามที่น่าสนใจคือ คนเราตอนนี้เปิดบัญชียากจริงหรือ ? ธนาคารจะมีส่วนช่วยให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไร
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา