กุญแจสู่ความสำเร็จของ AAI กับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตรับเทรนด์ Pet Humanization

เมื่อโลกต้องเผชิญกับโควิด-19 ทำให้ธุรกิจหลายแห่งได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตสวนกระแส ธุรกิจนั้นคือ การผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง จากการที่ผู้คนต้องใช้ชีวิตอยู่บ้าน ทำให้นิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อคลายเหงา และดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว หรือที่มีคำนิยามกันว่า Pet Humanization ที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ไว้ใช้งานหรือประโยชน์อื่น ๆ แต่บางคนเลี้ยงไว้เพื่อยกสถานะเทียบเท่ากับลูกคนหนึ่ง

aai

บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ AAI เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะแบบปิดผนึก (Human Food) โดยเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยและเป็นบริษัทหลักที่ทำธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของกลุ่ม บมจ. เอเชียนซี คอร์ปอเรชั่น หรือ ASIAN ผู้ผลิตอาหารแช่เยือกแข็ง อาหารสัตว์น้ำ รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะแบบปิดผนึกด้วย 

AAI ทำธุรกิจมากว่า 15 ปี สั่งสมความชำนาญและพัฒนากระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้หลายรูปแบบและครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด ตั้งแต่แบบพรีเมียม (Premium) และแบบแมส (Mass) เป็นที่ไว้วางใจของเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับสากล ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง

โดย AAI มีธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารอื่น ๆ ดังนี้

  1. ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง สำหรับสุนัขและแมว 

ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกหลากหลายรูปแบบ เช่น น้ำเกรวี่ เจลลี่ ฯลฯ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเจ้าของ   แบรนด์ระดับสากลที่มีการเติบโตดีทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตลาดเอเชีย และมีสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงแบบเกรดพรีเมียม และกลุ่มเป้าหมายในตลาดทั่วไป ภายใต้ “แบรนด์มองชู” “แบรนด์มาเรีย” “แบรนด์มองชู บาลานซ์” “แบรนด์ฮาจิโกะ” และ “แบรนด์โปร” นอกจากนี้ AAI ยังมีกิจการร่วมค้าในประเทศจีน ที่ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดในประเทศจีนอีกด้วย

  1. ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก 

ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าในน้ำปรุงรสและซอสปรุงรส รวมถึงอาหารปรุงสุกพร้อมทาน ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า โดยได้รับเครื่องหมายรับรองอาหารตามมาตรฐานฮาลาล โดยมีประเทศในโซนตะวันออกกลาง เป็นตลาดหลักในการส่งออก

  1. ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการแปรรูปปลาทูน่า

บริษัทฯ นำส่วนที่เหลือจากการแปรรูปปลาทูน่ามาใช้ผลิตปลาป่น น้ำนึ่งปลา และน้ำมันปลา ขายให้กับโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจ เช่น อาหารกุ้ง อาหารปลา อาหารปู ฯลฯ

AAI ประกาศแผนกลยุทธ์ “Level up AAI!” เป็นหนึ่งในแผนการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนตอบรับโอกาสที่ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงให้สามารถรับมือกับความผันผวนจากปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อธุรกิจได้ 

  1. ยกระดับธุรกิจ 

เป็นการปรับโครงสร้างและการบริหารธุรกิจแบบมาตรฐานสากล พัฒนาความรู้ ความสามารถของคนในองค์กร รวมถึงปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้างการเติบโตและรองรับดีมานด์ในอนาคต

  1. ยกระดับจากผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นคู่ค้าเชิงกลยุทธ์

พัฒนาความสัมพันธ์กับองค์กรคู่ค้า ทั้งในกลุ่มธุรกิจที่เป็นต้นน้ำและปลายน้ำ เพื่อบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีเสถียรภาพ

  1. ยกระดับแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทฯ เป็นแบรนด์ระดับโลก

พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของตนเองให้ครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกตลาดย่อย (Market Segment) รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ครบทุกประเภท จัดจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ

  1. ยกระดับความใส่ใจต่อแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านแผนกลยุทธ์ CHEERS! (Level up cares through CHEERS! Strategy)

กลยุทธ์ CHEERSI เป็นการใช้คำที่สื่อถึงความรื่นเริง จูงใจให้พนักงานเกิดทัศนคติที่ดีต่อแผนกลยุทธ์ขององค์กร สื่อสารผ่านคำง่าย ๆ ที่จะทำให้พนักงานทุกระดับมองเห็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน ว่าความยั่งยืนของธุรกิจเกิดจากการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โดยกลยุทธ์ CHEERS! ประกอบด้วย

C = Consumer: ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค

H = Human Development: ความรับผิดชอบต่อการพัฒนาบุคลากร 

E = Efficiency: ความรับผิดชอบต่อการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

E = Environment: ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

R = Rights of Human: ความรับผิดชอบต่อการเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชน

S = Stakeholders: ความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน

aai

เรียกได้ว่ากลยุทธ์ของ AAI เปรียบเหมือนกุญแจสู่ความสำเร็จ ซึ่งเมื่อถามว่าสำเร็จมากน้อยแค่ไหน อาจดูได้จากตัวเลขรายได้ของผลประกอบการที่เติบโตทุกปี โดยในปี 2562 ทำรายได้อยู่ที่ 3,588 ล้านบาท ปี 2563 ทำรายได้อยู่ที่ 4,512 ล้านบาท ปี 2564 ทำรายได้ 4,985 ล้านบาท และ งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ทำรายได้ 2,415 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ทำรายได้ 3,464 ล้านบาท

aai

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ AAI ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่แล้ว โดยปัจจุบัน AAI อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

การตัดสินใจเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ AAI นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่จะพาธุรกิจเติบโตไปอีกขั้น และเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ…

Reference: 

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3411992

https://thaipublica.org/2022/07/building-esg-driven-society32/

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา