ปตท.สผ. ได้สิทธิพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้า 600 เมกะวัตต์ในพม่า โบรกมองเป็นการต่อยอดธุรกิจ

PTTEP ได้สิทธิพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้า 600 เมกะวัตต์ในพม่า โดยที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการต่อยอดรกิจก๊าซธรรมชาติที่ครบวงจร และยังมองว่ายังมีโอกาสที่จะได้กำลังการผลิตเพิ่มเติมหลังจากนี้

Electric Pole เสาส่งไฟฟ้า
ภาพจาก Shutterstock

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ได้ประกาศว่าทางบริษัทได้รับการอนุมัติสิทธิการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในพม่า และได้ลงนามในหนังสืออนุญาตให้เริ่มดำเนินงาน กับกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานพม่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา

สำหรับโครงการดังกล่าวของ PTTEP มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบไปด้วยการลงทุนในการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ ในเขตไจลัท ภูมิภาคอิระวดี ระบบท่อขนส่งก๊าซทั้งนอกชายฝั่งและบนบก จากเมืองกันบก-เมืองดอร์เนียน-เมืองไจลัท รวมระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร และการวางระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากเขตไจลัท ไปยังเขตลานทายา ในภูมิภาคย่างกุ้ง

ปัจจุบันพม่านั้นยังต้องการพลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมากจากการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยกำลังการผลิตที่ PTTEP ได้นั้นคิดเป็น 10% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมในพม่า

บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด มองว่า การลงทุนดังกล่าวนั้นป็นการต่อยอดธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ครบวงจร สร้างความมั่นคงด้านการตลาดให้กับอุปทานก๊าซฯ จากแหล่งก๊าซฯ จากโครงการซอติก้าของ PTTEP ที่ดำเนินการผลิตอยู่แล้วในเมียนมา และจากโครงการ M3 ที่อยู่ระหว่างการสำรวจ และสร้างมูลค่าเพิ่มจากกการต่อยอดเป็นการผลิตไฟฟ้าซึ่งมีสัญญาซื้อขายระยะยาวรองรับ

นอกจากนี้ในบทวิเคราะห์ยังชี้ว่าจากแนวโน้มความต้องการก๊าซฯ และความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงในเมียนมา รวมทั้งทำเลที่ตั้งของเขตไจลัทที่มีความพร้อมด้านสถานีไฟฟ้า และระบบสายส่ง ทำบริษัทมีโอกาสในการขยายโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซฯ เพิ่มเติมจาก 600 เมกะวัตต์ที่บริษัทได้ไปด้วย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ