Krungthai COMPASS มองส่งออกไทยปีหน้าเติบโต 4% จากนโยบายไบเดน แต่หลายอุตสาหกรรมอาจไม่ได้รับผลดี

บทวิเคราะห์จาก Krungthai COMPASS โดยธนาคารกรุงไทย คาดการณ์ส่งออกของไทยปีหน้าจะเติบโตที่ 4% จากนโยบายของ โจ ไบเดน อย่างไรก็ดีมีบางอุตสาหกรรมของไทยที่อาจไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้

Klong toey Port ท่าเรือคลองเตย
ภาพจาก Shutterstock

บทวิเคราะห์จาก Krungthai COMPASS ชี้ว่าการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับกับกรณีที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย แม้ว่าพรรคเดโมแครตจะไม่สามารถกุมเสียงข้างมากไว้ได้ทั้งสภาสูงและสภาล่างก็ตาม ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวได้ดีกว่าในกรณีที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 โดยคาดว่าภาคการส่งออกของไทยปี 2021 จะโตได้ถึง 4%

ขณะที่มุมมองต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ Krungthai COMPASS มองไว้คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากนี้ โดยผลการศึกษาของ Moody’s Analytics พบว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวได้มากที่สุดในกรณีที่พรรค
เดโมแครตชนะการเลือกตั้งทุกสนามหรือที่เรียกว่า Blue Wave Victory โดยเศรษฐกิจจะขยายตัวได้น้อยลง
หากพรรคเดโมแครตชนะในการเลือกตั้ง ปธน. และครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

ด้านของการค้าของสหรัฐฯ กับคู่ค้ามีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น โดยที่ผ่านมาการมุ่งเดินหน้าทำสงครามการค้ากับจีนของสหรัฐฯ มักเป็นไปเพื่อการตอบโต้ท่าทีของจีนโดยตรง ซึ่งมักไม่ได้ผ่านการเห็นชอบหรือการอนุมัติจากสภาของสหรัฐ แต่ยุทธศาสตร์ของไบเดนจะเป็นการทำสงครามทางอ้อมหรือเป็นการ “โอบล้อม” จีนผ่านความร่วมมือทางการค้ากับประเทศอื่นๆ เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองของสหรัฐฯ ในเวทีโลก

ทำให้ในระยะข้างหน้า Krungthai COMPASS มองว่า ไบเดนซึ่งมีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมจะนำสหรัฐฯ กลับเข้าแข่งขันทางการค้ากับชาติอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างเท่าเทียมและอยู่ภายใต้กฎกติกามากขึ้นกว่าสมัยที่ทรัมป์ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงโอกาสที่สหรัฐฯ จะกลับมาทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป ของไทยก็มีเพิ่มมากขึ้น ภายหลังจากที่ถูกตัดสิทธิไปถึงสองครั้งในสมัยของทรัมป์ รวมถึงยังมีโอกาสสูงที่สหรัฐฯ จะกลับมาสานต่อความตกลง CPTPP อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี Krungthai COMPASS มองว่าบางอุตสาหกรรมของไทยอาจไม่ได้ประโยชน์ เช่น การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยอาจได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการส่งเสริมพลังงานสะอาด ทำให้มูลค่าตลาดรถยนต์ EV ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะลดบทบาทตลาดรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน และแน่นอนว่าจะกระทบผู้ประกอบการไทยที่เป็น Supply Chain ที่สำคัญของโลกในการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์สันดาปภายใน

ไม่เพียงแค่นั้นภาคการเกษตรของไทยก็อาจได้รับผลกระทบ จากความตกลง CPTPP อาจเพิ่มอุปสรรคให้กับอุตสาหกรรมเกษตรของไทย ถ้าหากไทยมีความจำเป็นต้องเข้าร่วม CPTPP เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “เวียดนาม” ก็จะเป็นการเปิดช่องให้ไทยต้องนำเข้าสินค้าจากประเทศสมาชิกมากขึ้น และยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น เช่น อาหารทะเล

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ