เมื่อพูดถึง เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย หลายๆ คน อาจยังไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้มากนัก แต่ความจริงแล้วในวงการอสังหาริมทรัพย์ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย นับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโครงการชั้นนำมากมาย ที่เราอาจเคยได้ยินกันมา เช่น โครงการสามย่านมิตรทาวน์ รวมถึงบ้านและทาวน์โฮมคุณภาพภายใต้แบรนด์ “โกลเด้น” ต่างๆ
จุดเริ่มต้นของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เริ่มขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า อาคารพาณิชย์ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ด้านโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม อพาร์ทเมนท์ และโรงแรม ทั้งในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง
ส่วน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ในประเทศไทย มีจุดเริ่มต้นมาจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Goldenland
หลังจากการควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน ทำให้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย กลายเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทยครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 ประเภท คือ อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 100,000 ล้านบาท และพนักงานอีกกว่า 1,500 คน
รวมกันเพื่อสร้างจุดแข็งทางธุรกิจ
คุณธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เล่าว่า “การรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 กลุ่มบนแพลตฟอร์มเดียวกันจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตที่ยั่งยืนให้เแก่บริษัทฯ จะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะวิกฤต เช่น บริษัทที่ดำเนินธุรกิจประเภทซื้อมาขายไปเพียงอย่างเดียว ก็จะมีรายได้จากทางเดียว เมื่อขายสินค้าไม่ได้ ก็จะต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนเงินสดและสภาพคล่อง
แต่หากบริษัทมีธุรกิจหลากหลายประเภท ก็จะมีรายได้จากหลายช่องทาง เช่น รายได้ประจำจากการให้เช่าอาคารสำนักงาน โรงงานและสินค้า
นอกจากจะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจแล้ว การรวมกันยังเป็นการสร้างความแตกต่างและข้อได้เปรียบให้แก่บริษัทฯ ด้วยการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกลุ่มธุรกิจ เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์ พัฒนา ต่อยอดธุรกิจและบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น” โดยคุณธนพล เล่าตัวอย่างของการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มธุรกิจว่า “ลูกค้าของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ อาจจะมีความต้องการที่อยู่อาศัย ตลอดจนออฟฟิศ บริษัทฯก็สามารถที่จะเสนอสินค้าระหว่างกลุ่มธุรกิจให้ลูกค้าพิจารณาไปในคราวเดียวกัน”
แนวคิดเบื้องหลังการผนึก 3 กลุ่มอสังหาฯบนแพตลฟอร์มเดียวกัน
Synergy เกิดการแบ่งปัน เชื่อมโยงความเชี่ยวชาญของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ เกิดเป็น Ecosystem ที่ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ สร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งธุรกิจแต่ละกลุ่ม รวมถึงในภาพรวม ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่าย
Diversification มีกลุ่มธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ช่วยกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ มีรายได้จากหลากหลายช่องทาง และลดการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเพียงอย่างเดียว
Resilience สร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างกลุ่มธุรกิจ ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่น ทนทาน พร้อมรับมือกับความท้าทายและความไม่แน่นอน
โดยธุรกิจของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย
ปัจจุบันมีโครงการที่กำลังเปิดขายอยู่ 59 โครงการ โดยเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินกว่า 70,000 ล้านบาท
ซึ่งในปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย นับว่าเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ของกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย มีโรงงาน และคลังสินค้า ทั้งแบบพร้อมใช้ และแบบสร้างความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ตรงกับการใช้งานของลูกค้าแต่ละราย ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์กว่า 50 แห่งทั่วประเทศไทย ปัจจุบัน มีพื้นที่โรงงานรวม 1.2 ล้านตารางเมตร พื้นที่คลังสินค้ารวม 1.8 ล้านตารางเมตร รวมเป็นพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการทั้งสิ้น 3,000,000 ตารางเมตร
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม
ประกอบด้วยอาคารสำนักงานให้เช่า โครงการมิกซ์ยูส เกรด A ในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ โดยโครงการในปัจจุบันที่รู้จักกันดี คือ อาคารสาทรสแควร์, อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์, โครงการสามย่านมิตรทาวน์, ดิ แอสคอท สาทร แบงคอก, อาคารโกลเด้นแลนด์ และโรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ คิดเป็นพื้นที่รวม 240,000 ตารางเมตร
กลยุทธ์ ONE Platform สร้างการเติบโต
แน่นอนว่าในช่วงนี้ มีความท้าทายทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงปัจจัยภายนอกประเทศ จึงต้องมีกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจเดินต่อไปข้างหน้า สำหรับเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ได้นำกลยุทธ์ ONE Platform มาใช้ควบคู่กับแผนการดำเนินธุรกิจ ONE-TO-THREE ระยะ 3 (2021-2023)
ONE – One Platform, 2021 การรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 กลุ่มบนแพตลฟอร์มเดียวกัน เพื่อให้ทุกกลุ่มธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ภายใต้แบรนด์และวัฒนธรรมองค์กรเดียวกัน
TO – Towards a Trusted Brand, 2022 ต้องการเติบโตด้วยความยั่งยืน ด้วยการเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้า
THREE – Top Three, 2023 ต้องการเป็น 1 ใน 3 บริษัทผู้นำอสังหาริมทรัพย์ในทุกกลุ่มธุรกิจ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา