แม้หลายองค์กรจะเริ่มนำหุ่นยนต์เข้ามาปรับใช้กับธุรกิจมากขึ้น แต่ล่าสุด Walmart ค้าปลีกอันดับต้นๆ ของโลกประกาศเลิกใช้หุ่นยนต์เพื่อบริหารจัดการสินค้าคงคลัง หลังทดสอบใช้งานมานานถึง 3 ปี
ปรับความคิด แต่เปิดกว้างเทคโนโลยีใหม่
Walmart เป็นพาร์ทเนอร์กับ Bossa Nova Robotics ผู้ผลิตเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อนำหุ่นยนต์มาช่วยบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสต๊อกสินค้า, การกำหนดราคา และอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงเกี่ยวกับรายได้ลดลงเพราะผู้บริโภคไม่เจอกับสินค้าที่ต้องการซื้อ
“ถึงตอนนี้เราคงต้องยกเลิกการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Bossa Nova Robotics เพราะเทคโนโลยีหุ่นยนต์นี้เราทดสอบในกว่า 500 สาขา เหมือนกับที่เราทำกับเทคโนโลยีอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรเราพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา ตัวอย่างคือเรายังใช้หุ่นยนต์ถูกพื้นอัตโนมัติอยู่”
ถึงจะไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไม Walmart ถึงยกเลิกการใช้งานหุ่นยนต์บริหารจัดการสินค้าคงคลัง แต่ด้วยบริษัททำรายได้ถึง 1.37 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ถึง 97% และการรุกตลาด Pickup-Delivery ก็ไม่แปลกที่ Walmart จะหันไปจริงจังกับช่องทางรายได้ดังกล่าวมากกว่า
ในทางกลับกัน องค์กรอื่นยังมีการลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่อง เช่นค้าปลีกด้วยกันอย่าง Target ที่ใช้หุ่นยนต์มาช่วยบริหารสินค้า และปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า รวมถึง Amazon ที่ซื้อกิจการหุ่นยนต์เพื่อยกระดับการพัฒนาเรื่องนี้จนปัจจุบันมีการใช้งานหุ่นยนต์ถึง 2 แสนตัวเพื่อบริหารคลังสินค้า
สรุป
เป็นที่น่าสนใจว่าทำไม Walmart ถึงยกเลิกการใช้งานหุ่นยนต์ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการพิสูจน์แล้วว่ามันช่วยยกระดับการบริหารคลังสินค้าได้จริง ดังนั้นต้องติดตามกันว่า Walmart จะดำเนินการเรื่องนี้เองเหมือน Amazon หรือจะมองข้ามเทคโนโลยีนี้ไปเลย
อ้างอิง // BBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา