เงิน และเวลา คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความสุขให้กับการใช้ชีวิต ถ้ามีเงิน แต่ไม่มีเวลาให้ใช้เงิน ก็ไม่มีความสุข หรือมีแต่เวลา แต่ไม่มีเงินให้ใช้ ชีวิตก็ไม่ได้มีความสุขเช่นเดียวกัน
Ashley Whillans นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Harvard เคยทำการวิจัยว่า อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด 2 สิ่งในการใช้ชีวิต ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ว่าจะถามคนรวยระดับมหาเศรษฐี หรือคนที่มีฐานะยากจน คำตอบออกมาเหมือนๆ กัน คือ เงิน และเวลา ซึ่งผลที่ได้ไม่น่าแปลกใจ เพราะไม่ว่าคนที่มีฐานะระดับมหาเศรษฐี หรือคนที่มีฐานะยากจน ล้วนแล้วแต่ให้ความสนใจกับการหาเงิน จนลืมไปว่าชีวิตก็ต้องการเวลา เพื่อทำอย่างอื่นเช่นกัน
ประโยชน์ของการสนใจกับเวลา มากกว่าเงิน
มีระดับความสุขในชีวิตมากกว่า
คนที่ให้ความสนใจกับเวลา มากกว่าเงิน มักมีระดับความสุขในการใช้ชีวิตมากกว่าคนที่ให้ความสำคัญกับเงิน โดยผลการศึกษายังพบด้วยว่าปัจจัยด้านการศึกษา สถานภาพการสมรส และการมีบุตร ไม่ได้ส่งผลต่อระดับความสุขแต่อย่างใด ขอแค่ให้ความสนใจกับเวลา ก็มีแนวโน้มที่มีระดับความสุขเพิ่มขึ้นแล้ว
ปฎิสัมพันธ์ดี มีความสัมพันธ์กับคนรอบตัว
การให้ความสำคัญกับเวลาในชีวิต มากกว่าเรื่องการเงิน เป็นเหมือนการกระตุ้นให้เรามีปฎิสัมพันธ์กับคนรอบตัวมากขึ้น ทั้งคนที่รู้จักในชีวิต หรือคนที่เราไม่รู้จักแต่เจอหน้ากันบ่อยๆ ซึ่งการสร้างปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ มีส่วนช่วยลดความเครียด และเพิ่มระดับความสุขได้ด้วย
ในมุมมองคนที่มีคู่ คนที่ให้ความสนใจกับเวลา มากกว่าเงิน จะมีชีวิตคู่ที่ดีกว่า โดยเฉพาะคู่ที่ไม่ได้ใช้เงินเพื่อซื้อเวลา (เช่น การจ้างแม่บ้าน เพื่อประหยัดเวลาในการทำงานบ้านด้วยตัวเอง) จะมีความสุขมากกว่า จากการได้ใช้เวลาร่วมกัน
พึงพอใจกับงานที่ตัวเองทำอยู่
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคนที่ให้ความสำคัญกับเวลา กับคนที่ให้ความสำคัญกับเงิน จะพบว่า ในระยะเวลาการทำงานที่เท่าๆ กัน คนที่ให้ความสำคัญกับเวลา จะสามารถสร้างรายได้จากการทำงานมากกว่า เพราะ คนที่ให้ความสำคัญกับเวลา มีแนวโน้มที่จะทำงานที่ตัวเองรัก มีความเครียดน้อยลง มีประสิทธิภาพการทำงานสูง มีความคิดสร้างสรรค์ และมีอัตราการลาออกน้อยกว่าคนที่ให้ความสนใจกับเรื่องเงิน
ยิ่งมีเงินมาก ยิ่งมีความสุข อาจไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป
แต่อย่างไรก็ตาม แม้การให้ความสนใจกับเรื่องเวลา จะมีคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะระดับความสุขทั้งในมุมส่วนตัว และในมุมความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ แต่ก็อย่าลืมว่า เงินก็เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตเช่นกัน คงไม่มีใครที่สามารถใช้ชีวิตได้หากไม่มีเงิน
จากการศึกษา ของนักเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย Princeton ที่ทำการสำรวจจากชาวอเมริกันกว่า 450,000 คน พบว่า ระดับความสุขจะเพิ่มขึ้นตามความมั่งคั่งในชีวิต แต่จนถึงระดับหนึ่ง เมื่อหาเงินได้เกิน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ระดับความสุขจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ แม้จะหาเงินได้มากขึ้นก็ตาม
เมื่อหาเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ระดับความสุขที่ลดลง และไม่พอใจในชีวิตของตัวเอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เกิดการเปลี่ยนเทียบฐานะของตัวเอง กับคนอื่นๆ ที่มีฐานะร่ำรวยกว่า
นอกจากนี้ยังมีการสำรวจด้วยว่า บุคคลที่มีฐานะรำ่รวย มีเงินเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่ามีความสุข โดยพบว่า กว่า 75% ต้องการมีเงินเพิ่มอีกกว่า 5-10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 156-312 ล้านบาท
รู้จักกับวิธีทำยังไง ไม่ให้สนใจ “เงิน” มากกว่า “เวลา”
เมื่อเงิน กับเวลา คือเรื่องของความเชื่อ และคุณค่าที่แต่ละคนยึดถือ การเปลี่ยนคุณค่าที่ยึดถือ โดยพยายามทำให้เราให้ความสำคัญกับเวลา มากกว่าเงิน เพื่อเพิ่มความสุข ทำได้ง่ายๆ โดยใช้กลยุทธ์ง่ายๆ เพียง 3 ข้อ ได้แก่
-
- พยายามโน้มน้าวใจตัวเอง ว่าเวลา ก็มีความสำคัญไม่แพ้เงิน
- พยายามทบทวนคุณค่า หรือสิ่งที่ตัวเองยึดถือ เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ
- วางแผนกลยุทธ์ที่ใช้ในการตัดสินใจ เพื่อทำให้เรามีเวลาว่างมากขึ้นในแต่ละวัน สัปดาห์ หรือเดือน
ที่มา – cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา