Toshiba ยักษ์ใหญ่ของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น กำลังประสบปัญหาธุรกิจอย่างหนัก และอาจถึงขั้นต้องล้มละลายในเร็วๆ นี้
Toshiba ขาดทุนสะสมมานานแล้ว และสถานการณ์ในภาพรวมก็ยังไม่ดีขึ้นเลย ล่าสุดเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา (14 ก.พ. 2017) บริษัทก็แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ขอเลื่อนการส่งรายงานการเงินประจำไตรมาส 4 ของปี 2016 จากเดิมที่ต้องส่งในวันที่ 14 ก.พ. เป็นวันที่ 14 มี.ค. แทน
พร้อมกันนี้ Toshiba ก็เปิดเผยข่าวร้ายเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์ของบริษัท ที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาอย่างหนัก จนบริษัทต้องลงมูลค่าด้อยค่าสินทรัพย์ทางบัญชี (impairment) สูงถึง 7.12 แสนล้านเยน (2.18 แสนล้านบาท) และประธานบอร์ด Shigenori Shiga ก็ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทันที
เจ็บหนักจากธุรกิจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐ
ปัจจุบัน Toshiba มีธุรกิจ 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์, พลังงาน, โครงสร้างพื้นฐาน (เช่น ระบบควบคุมรางรถไฟ แบตเตอรี่รถยนต์) ปัญหาในคราวนี้เกิดจากธุรกิจพลังงาน ที่ Toshiba เข้าไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งในสหรัฐ โดยเริ่มสัญญาตั้งแต่ปี 2008
ตอนแรก Toshiba ใช้บริษัทลูก Westinghouse Electric Company (WEC) เข้าไปรับงานด้านเตาปฏิกรณ์อย่างเดียว แต่ภายหลังโครงการบานปลายเพราะมีการแก้ไขแบบและฟ้องร้องกันระหว่างคู่ค้า ส่งผลให้ WEC ตัดสินใจเข้าซื้อบริษัทก่อสร้าง S&W ที่เป็นคู่ค้ากันในปี 2015 เพื่อหวังว่าจะแก้ปัญหาเรื่องฟ้องร้องและการก่อสร้างของโครงการให้เสร็จตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม หลัง Toshiba ซื้อบริษัท S&W แล้ว กลับพบว่าประเมินต้นทุนของโครงการผิดพลาดไปถึง 6.1 พันล้านดอลลาร์ (2.1 แสนล้านบาท) ส่งผลให้บริษัทต้องบันทึกค่าเสียหายนี้ในบัญชี และต้องปรับโครงสร้างของธุรกิจนิวเคลียร์ใหม่ทั้งหมด
ตัวเลขทั้งหมดยังเป็นแค่ตัวเลขประเมินเบื้องต้น (provisional forecast) เท่านั้น ตัวเลขที่แท้จริงต้องรอการยืนยันจากผู้ตรวจสอบบัญชี และอาจเจ็บหนักมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
นับถอยหลังชำระหนี้
หลังข่าวประกาศออกไป หุ้นของ Toshiba ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตกลงทันที 8% แต่ข่าวร้ายดูยังไม่จบแค่นั้น
Toshiba เป็นหนี้สะสมมานาน และต้องกู้เงินมาโปะหนี้อยู่ตลอด โดยเจ้าหนี้รายใหญ่คือธนาคารใหญ่ของญี่ปุ่น 3 ราย ได้แก่ Sumitomo Mitsui Banking, Mizuho Bank และ Sumitomo Mitsui Trust Bank นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทประกันชีวิตของญี่ปุ่นรายอื่นๆ
รอบนี้ Toshiba ขอเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ไปอีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ (หลังจากได้รับการต่ออายุมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา) ทางออกของบริษัทในระยะสั้นคือหาเงินสดเข้ามาเพิ่ม ซึ่งซีอีโอ Satoshi Tsunakawa ก็ประกาศว่าต้องการจะขายธุรกิจผลิตชิปออกไป เปลี่ยนจากแผนเดิมที่จะขายหุ้น 20% ของธุรกิจผลิตชิป
คาดว่าถ้า Toshiba ขายธุรกิจผลิตชิป-เซมิคอนดักเตอร์ได้สำเร็จ ก็น่าจะมีเงินสดเข้ามา 13-17 พันล้านดอลลาร์ ช่วยแก้ปัญหาหนี้ระยะสั้นได้ (ผู้ซื้อที่เป็นไปได้คือ Canon, Western Digital, Tokyo Electron, Foxconn, Micron, SK Hynix) แต่ในระยะยาว การไม่มีธุรกิจชิปก็อาจเป็นผลเสียต่อการฟื้นฟูกิจการของบริษัทเช่นกัน
แต่ถ้าไม่สำเร็จ บริษัทก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยื่นขอล้มละลาย
ที่มา – Toshiba, Nikkei, Seeking Alpha, Reuters, New York Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา