ตอนนี้บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศจีนต่างถูกทางการสหรัฐอเมริกากดดันให้ทำธุรกิจได้ลำบาก ล่าสุดคือ Huawei ที่เตรียมหยุกการผลิตชิปเซ็ตมือถือตัวท็อป Kirin 9000 หลังคู่ค้าจากไต้หวันกังวลว่า หากผลิตต่อบริษัทจะมีปัญหา
กดดันจากสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
ต้นเหตุของการหยุดผลิตชิปเซ็ต Kirin 9000 ที่ถูกติดตั้งใน Smartphone รุ่นสูงสุดของ Huawei มาจากประกาศเมื่อเดือนพ.ค. 2563 ของทางการสหรัฐอเมริกาที่กดดันไม่ให้คู่ค้าต่างๆ ในประเทศ ทำการส่งมอบชิ้นส่วนในการผลิตสินค้าให้กับ Huawei
ทำให้ Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC) ผู้ผลิตชิปเซ็ต Kirin 9000 ให้กับ Huawei หยุดรับคำสั่งผลิตชิปเซ็ตดังกล่าวจาก Huawei มาตั้งแต่เดือนพ.ค. เพราะชิปเซ็ตตัวนี้ต้องใช้บางชิ้นส่วนจากสหรัฐอเมริกา และทางบริษัทค่อนข้างกังวลเรื่องปัญหาทางธุรกิจหากผลิตชิปเซ็ตตัวนี้ต่อไป
เมื่อเป็นอย่างนี้ Yu Chengdong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Huawei จึงออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า ชิปเซ็ต Kirin 9000 จะหยุดผลิตตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. และส่งผลต่อยอดส่งมอบโทรศัพท์มือถือของบริษัทที่อาจทำได้น้อยกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ 240 ล้านเครื่อง เล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ Huawei ค่อนข้างลำบากในธุรกิจโทรคมนาคม เพราะประเทศอื่นๆ เริ่มไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ของ Huawei มากขึ้น เช่นสหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย มีแผนนำอุปกรณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G ออกจากประเทศ ทำให้ตอนนี้ Huawei เริ่มถูกกดดันให้ต้องอยู่แต่ในประเทศจีนเพียงอย่างเดียว
สรุป
ถือเป็นความท้าทายของบริษัทเทคโนโลยีจากประเทศจีนในยุคนี้ เพราะสหรัฐอเมริกาถือเป็นอีกประเทศมหาอำนาจ และความกังวลเรื่องการโจมตีทางไซเบอร์ หรือ Cybersecurity จากประเทศจีนก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นคงต้องติดตามกันว่า Huawei และบริษัทเทคโนโลยีจากจีนรายอื่นจะดิ้นรนอย่างไรต่อไป
อ้างอิง // Japan Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา