คณะกรรมการนโยบายการเงิน ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวตามมาตรการผ่อนคลายควบคุมการระบาดของ COVID-19 และเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว แต่ย้ำถึงความพร้อมที่จะใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมถ้าจำเป็น
คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% มองว่าเศรษฐกิจของไทยค่อยๆ ฟื้นตัวตามมาตรการผ่อนคลายควบคุมการระบาดของ COVID-19 และตามเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี กนง. มองว่า เศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปีในการฟื้นตัว ไม่เพียงแค่นั้น กนง. ยังมีมุมมองว่าเสถียรภาพการเงินของไทยมีความเปราะบางเพิ่มมากขึ้น
- แบงก์ชาติชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 คือจุดต่ำสุด คาดว่าปี 2022 เศรษฐกิจไทยถึงฟื้นเท่าก่อน COVID-19
- ING มองแบงก์ชาติเหลือเครื่องมือทางการเงินช่วยเศรษฐกิจไม่มากแล้ว คาดพุธนี้ยังคงดอกเบี้ยเท่าเดิม
- ครม. มีมติแต่งตั้ง “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” เป็นผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่แทน “วิรไท”
ก่อนหน้านี้ผลสำรวจนักวิเคราะห์นั้นคาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในครั้งนี้ ส่วนใหญ่มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า กนง. นั้นจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายการเงินของไทยที่มีเครื่องมือทางการเงินเหลือไม่มาก ฯลฯ
สำหรับเหตุผลในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้นั้น กนง. มองถึงเรื่องสภาพคล่องที่ยังมีอยู่ในตลาดการเงินของไทยที่ยังสูงมาก และ กนง. ยังมองว่าสถาบันการเงินควรที่จะผลักดันมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เกิดผลในวงกว้างมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเร่งรัดการให้สินเชื่อผ่านโครงการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหา
ขณะที่ภาคเศรษฐกิจไทย กนง. มองว่าการจ้างงานและรายได้ของครัวเรือนได้รับผลกระทบรุนแรงจากเศรษฐกิจที่หดตัวลงและใช้เวลาฟื้นนาน ภาครัฐควรที่จะใช้มาตรการสนับสนุนการจ้างงาน ส่งเสริมการปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจ รวมไปถึงการพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อสอดคล้องกับบริบทใหม่หลัง COVID-19
อัตราค่าเงินบาทของไทยนั้น กนง. มีมุมมองว่าค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าเร็วกว่าคาด อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของไทย และเห็นควรให้จับตามองตลาดอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประเมินความจำเป็นของมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม
นอกจากนี้ กนง. ยังได้ย้ำถึงความพร้อมที่จะใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมถ้าจำเป็น
ที่มา – ธนาคารแห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา