แต่ละคนมีนิยามความสำเร็จที่แตกต่างกันออกไป บางคนคิดว่าการได้ทำงานที่มั่นคง มีเงินมากๆ คือความสำเร็จ แต่บางคนกลับคิดว่าความสำเร็จคือการได้อยู่กับคนที่รัก ซึ่งความจริงแล้วการจะตัดสินว่าใครประสบความสำเร็จมากกว่าคงทำไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน
Warren Buffett หนึ่งในมหาเศรษฐีนักลงทุน และนักธุรกิจชื่อดังของโลก มีทรัพย์สินรวมกว่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.29 ล้านล้านบาท เคยตอบคำถามนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Georgia ที่ถามว่านิยามความสำเร็จของเขาคืออะไร Buffett ตอบนักศึกษาคนนั้นว่า สำหรับเขาที่ชีวิตเดินทางมาถึงอายุขนาดนี้ ความสำเร็จเดียวของเขาคือ “คนที่คุณอยากให้รัก ก็รักคุณเช่นเดียวกัน”
บางครั้งการมีเงินมากๆ บริจาคเงินให้หน่วยงานจนมีชื่อตัวเองติดอยู่ในตึก แต่ในความจริงแล้วกลับไม่มีคนรักเลย ก็ไม่มีประโยชน์อะไร “เมื่ออายุมาก มีเงินในบัญชีเก็บไว้จำนวนมหาศาล แต่กลับไม่มีคนที่คิดถึงคุณเลย ชีวิตก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
ความรักเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่มีคุณค่ามากที่สุดในชีวิต แต่อย่าลืมว่าในความเป็นจริงแล้ว เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่มีแต่การแข่งขัน หลายๆ คนแข่งขันกันเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต การทำธุรกิจ การวางแผนพยายามขึ้นสู่จุดสูงสุดของอาชีพ เพื่อความร่ำรวยและความมีชื่อเสียง เก็บเงินจำนวนมากเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ และซื้อรถยนต์ราคาแพง แต่อย่างไรก็ตาม Buffett ย้ำเสมอว่า ต่อให้มีเงินเป็นล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ไม่สามารถซื้อความรักที่คนอื่นมีให้ได้
ทำอย่างไรให้ได้ความรักจากคนอื่น ภายใต้การแข่งขันกับคนอื่น
คำถามที่เกิดขึ้นคือ จะใช้ชีวิตอย่างไรให้ได้ทั้งงาน และความรักที่มาจากคนอื่นๆ ไปพร้อมๆ กัน อย่างที่ Warren Buffett ทำได้
ไม่เห็นแก่ตัว อย่าคาดหวังว่าจะได้รับการตอบแทน
ความรักมีกฎง่ายๆ อยู่เพียงข้อเดียว คือ เมื่อคุณรักใครสักคนแบบไม่มีเงื่อนไข ให้ความเชื่อมั่น ให้การสนับสนุน เราก็จะได้รับความรักนั้นกลับมาในรูปแบบของความเคารพนับถือ ความชื่นชม และความเชื่อถือ และเมื่อเราได้รับความรักจากคนอื่นอยู่เสมอ จะทำให้เรากลายเป็นคนมีความเมตตาต่อตัวเอง หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Self-compassion
นักวิจัยจาก University of California เคยทำการศึกษาและพบว่า การมีความเมตตาต่อตัวเองจะช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ และกำลังใจในการใช้ชีวิต ช่วยเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวจากความล้มเหลว รวมถึงคนที่มีความเมตตาต่อตัวเองจะเป็นคนที่มีความสุข มองโลกในแง่ดี และมีความริเริ่มในตัวเองได้
มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ความเห็นอกเห็นใจที่มีให้ผู้อื่นถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ และเป็นเหมือนปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้คุณจะได้รับความรักจากคนอื่น ซึ่งความเห็นอกเห็นใจหรือ Empathy มีความหมายยิ่งกว่าความสงสาร เพราะความเห็นอกเห็นใจต้องเกิดจากการเข้าใจในสถานการณ์ที่คนอื่นกำลังเจอ
ความเห็นอกเห็นใจเป็นทักษะที่มีความสำคัญ และกระทบกับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้อื่นเสมอ DDI เคยทำการสำรวจผู้นำกว่า 15,000 คน ใน 20 อุตสหกรรม พบว่าทักษะการรับฟัง และตอบสนองต่อปัญหาด้วยความเห็นอกเห็นใจ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมได้ดี
ใช้ชีวิตในการทำงาน ด้วยความสุข
การทำงานก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้เราได้รับความรักจากคนรอบข้าง เพราะในความจริงแล้วการทำงานนับว่าเป็นช่วงที่กินเวลามากที่สุดของวัน Carol J. Loomis ผู้เขียนหนังสือรวบรวมประวัติชีวิตของ Buffets เล่าว่า Buffett ชอบที่จะทำงานในทุกๆ วัน เพราะได้ใช้ชีวิตการทำงานที่รายล้อมไปด้วยคนที่เขารัก การทำงานใน Berkshire ซึ่งเป็นบริษัทที่เขาก่อตั้ง คือความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตของ Buffett
ความสุขจากการทำงานนับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะองค์กรที่ทำงานด้วยความเชื่อ ค่านิยม และปฎิบัติแบบเดียวกัน จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น
ปฎิบัติตัวต่อคนอื่น ตามแบบที่พวกเขาอยากได้
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า อยากให้คนอื่นปฎิบัติตัวกับเราอย่างไร เราก็ต้องปฎิบัติตัวอย่างนั้นกับคนอื่นก่อน แต่ความจริงแล้วยังมีการปฎิบัติตัวในอีกรูปแบบหนึ่ง คือปฎิบัติตัวต่อคนอื่น ตามแบบที่พวกเขาอยากได้ เพราะเป็นการให้ความเคารพสนใจความต้องการของผู้อื่น แทนที่จะแสดงความต้องการที่อยากให้คนอื่นปฎิบัติต่อตัวเองออกไป ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความแตกต่างว่าจะปฎิบัติต่อคนอื่นอย่างไรตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
ทำตามความต้องการของตัวเอง
การทำตามความต้องการของตัวเองนับว่ามีความสำคัญมากที่สุดในการใช้ชีวิต ถ้ามีความฝันอะไร ก็ควรทำตามความฝันของตัวเองเป็นที่ตั้ง บางคนมีความฝันที่จะทำงานที่ตัวเองชอบ แต่กลับไม่ได้ทำตามความต้องการของตัวเอง เพราะต้องทำงานที่มีความมั่นคง มีเงินเดือนที่ดีแทน สุดท้ายจึงไม่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ
แต่อย่าลืมว่าการได้ทำในสิ่งที่รักตามความต้องการของตัวเอง จะช่วยสร้างความสุขที่แท้จริงในชีวิตได้ ดังนั้นถ้าคุณยังไม่รู้ความต้องการของตัวเอง ก็ควรใช้เวลาเพื่อค้นหามัน
ที่มา – cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา