สหรัฐฯ จัดหนักจีนต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่เรื่องภัยคุกคามความมั่นคงและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดแบนวีซ่าพนักงานหัวเว่ยที่เป็นคนจีนที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมกันแก้ปัญหาทะเลจีนใต้ผ่านกฎหมายระหว่างประเทศด้วย
Mike Pompeo รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำถึงการลงนามในกฎหมายปกครองตนเองฮ่องกง (Hong Kong Autonomy Act) และการประกาศคำสั่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์นั้น เป็นไปตามที่ทรัมป์กล่าวไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ถ้าจีนปฏิบัติต่อฮ่องกง แบบหนึ่งประเทศ หนึ่งระบบ เราก็จะทำเช่นเดียวกัน
ปลอด 5G จากจีน คือ Clean Countries ไม่ใช่ Huawei คือ Clean Carriers
จากนั้น Pompeo ก็พูดถึงการหารือกับอังกฤษ และยกย่องการตัดสินใจของอังกฤษที่เดินหน้าแบนเครือข่าย 5G ของ Huawei โดยอังกฤษยังร่วมกับสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศที่ปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ทำให้ประเทศเป็น “Clean Countries” หรือเป็นชาติที่ปลอดจากเจ้าของเครือข่าย 5G ที่ไม่น่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Telefonica, Telco Italia และ NTT ล้วนเป็น “Clean Carriers”
มาตรการต่อไปที่สหรัฐฯ จะจัดการกับ Huawei ก็คือ จำกัดวีซ่าพนักงานคนจีนที่ทำงานกับ Huawei และมีพฤติการณ์ที่สนับสนุนต่อระบอบที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
แบน Huawei และเรียกร้อง แก้ปัญหาทะเลจีนใต้ผ่านกฎหมายระหว่างประเทศ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Pompeo ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ออกนโยบายจัดการทะเลจีนใต้ไปจีนไม่ใช่จักรวรรดิน่านน้ำ (China’s maritime empire) หากจีนทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศอีก พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็กำลังแสดงให้โลกเห็นว่าต้องการพรมแดนเพิ่ม โดยสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ขอความสนับสนุนจากผู้นำอาเซียนที่จะต้องประกาศว่าความขัดแย้งในทะเลจีนใต้นั้นต้องแก้ปัญหาผ่านกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยก็เรียกร้องให้ไทยที่แม้ไม่ได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ แต่ไทยก็ได้รับประโยชน์จากการเดินเรืออย่างเสรีในทะเลจีนใต้สูงเป็นอันดับต้นๆ ในภูมิภาค มูลค่าการค้าสินค้าไทยเกิน 80% ของ GDP ราว ครึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ การค้าส่วนใหญ่ต้องผ่านเส้นทางในทะเลจีนใต้ ไทยล้วนพึ่งพาการเดินเรืออย่างเสรีในน่านน้ำ การกระทำบุ่มบ่ามเพื่อแสดงสิทธิควบคุมทะเลจีนใต้ ล้วนเป็นสัญญาณการบั่นทอนเสถียรภาพของภูมิภาค
Pompeo ทิ้งท้ายว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำให้ชีวิตคนจีนเลวร้ายมากพอแล้ว แต่โลกแห่งเสรีภาพไม่ควรทนต่อการล่วงละเมิดของจีนอีกต่อไป
ที่มา – State.Gov
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา