หลังจากเริ่มให้บริการมาเมื่อปี 2558 ในที่สุด Ookbee Mall ก็ไม่สามารถขยายธุรกิจตามที่ตั้งเป้าไว้ จึงตัดสินใจปิดตัวลงในสิ้นเดือนมี.ค. นี้
ตลาดเปลี่ยนเร็ว ทำให้ Scale ไม่ทัน
วันนี้ (9 ก.พ.) ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง Ookbee ได้โพสต์ข้อความลงใน Facebook ส่วนตัว ความว่า หลังจากทบทวนผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ทางทีมผู้บริหารได้พิจารณาแล้วว่า สมควรหยุดการดำเนินงานในส่วนของ E-Commerce เนื่องจากไม่สามารถขยายธุรกิจให้มี Scale ตามแผนที่เคยวางไว้ได้ ส่วนธุรกิจอื่นเช่น Digital Content และ Platform ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจต่อไป ผ่านสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
สำหรับ Ookbee Mall นั้นเป็นธุรกิจ E-Commerce ที่เน้นนำเข้าสินค้าจาประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแบบ Cross Boarder เริ่มให้บริการเมื่อปี 2558 ผ่านการร่วมทุนระหว่างกลุ่ม Ookbee และกลุ่มทุนญี่ปุ่น Transcosmos แต่หลังจากการแข่งขันของ E-Commerce ในประเทศไทยเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เช่นมีกลุ่มทุนหนาจากต่างประเทศเข้ามาทำตลาด รวมถึงการเผาเงินของผู้เล่นรายใหม่ ทำให้ Ookbee ที่อาจไม่ถนัดในตลาดนี้ถอนดัวออกมาก่อน โดย Ookbee Mall จะหยุดให้บริการในวันที่ 31 มี.ค. เวลา 12.00 น.
ผู้เล่นท้องถิ่นรายอื่นเริ่มชะลอตลาด
ขณะเดียวกัน ถ้าสังเกตให้ดีตอนนี้ผู้เล่น E-Commerce ท้องถิ่นก็เริ่มชะลอการทำตลาดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Tarad.com เว็บไซต์ขายของออนไลน์รายแรกๆ ของไทย รวมถึงแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ของกลุ่ม Ascend เช่น WeMall และ WeLoveShopping ด้วย ส่วนตอนนี้ก็มีผู้เล่นจากต่างชาติเข้ามาทุ่มตลาดอาทิ 11 Street จากเกาหลี และยังไม่รวมถึงกลุ่ม Alibaba ที่ทุ่มเงินซื้อ Lazada ไปก่อนหน้านี้เพื่อปูพรมตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หากต้องการสั่งซื้อสินค้าผ่าน Ookbeemall ยังสามารถทำได้ จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2560 โดยทาง Ookbeemall ได้ชี้แจงรายละเอียดไว้ดังนี้ คลิก
สรุป
คงต้องรอดูตอนต่อไปของ E-Commerce ในประเทศไทยให้ดีว่าจะเป็นอย่างไร เพราะหลังจากการทุ่มตลาดอย่างต่อเนื่องของกลุ่มทุนหนา เล่นเอาผู้เล่นท้องถิ่นไปไม่เป็นเหมือนกัน และโดยส่วนตัวคิดว่าคงมีผู้เล่นท้องถิ่นรายอื่น ค่อยๆ หายไปจากตลาดไทยแน่นอน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา