ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ไม่มีเงิน จะบริหารจัดการการเงินอย่างไร ในวันที่โควิด-19 สร้างความไม่แน่นอนในชีวิต
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และการจ้างงานของคนทั่วโลก ทำให้หลายคนต้องตกอยู่ในภาวะความไม่แน่นอนไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
แม้ว่าในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลจะเริ่มประกาศแนวทางผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ประเทศ โดยอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และกิจการบางประเภทเริ่มเปิดให้บริการได้อีกครั้งแล้ว จากจำนวนผู้ป่วยที่ในแต่ละวันเริ่มลดลงเรื่อยๆ
แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่ากิจการ ร้านค้าหลายๆ แห่งจะเริ่มกลับมาเปิดดำเนินการปกติ แต่ก็ใช่ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ คงต้องใช้เวลากว่าทุกอย่างจะฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง
วิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้ สามารถแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง โดยเฉพาะคนที่อาจจะกำลังตกงาน มีรายรับลดลง แต่รายจ่ายกลับไม่ได้ลดลงด้วย กับอีกกลุ่มคือ คนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ตกงาน มีเงินเดือนเหมือนเดิม แต่ต้องใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง
คนกลุ่มนี้อาจเป็นคนที่กำลังตกงาน โดนปรับลดเงินเดือน มีหนี้สินที่ต้องชำระ รวมถึงมีภาระในชีวิตประจำวันที่ยังรออยู่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินแนะนำวิธีบริการจัดการการเงินในช่วงนี้ 3 ข้อ ได้แก่
จัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย
สิ่งแรกที่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ควรทำ คือการจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หากมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และเงินที่มีอยู่อาจไม่พอจ่ายทั้งหมด ให้ตั้งคำถามกับตัวเอง 2 ข้อ คือ หากไม่จ่ายจะเกิดผลกระทบต่อร่างกายของเราหรือไม่ และหากไม่จ่ายจะทำให้ชีวิตของเราไม่ปลอดภัยหรือเปล่า ซึ่งถ้าคำตอบออกมาเป็น ใช่ทั้งสองข้อ แสดงว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนี้สำคัญ
อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายบางอย่างอาจไม่ได้มีความสำคัญมากจริงๆ หรือสามารถหาทางออกด้วยการชะลอการจ่ายออกไปก่อนได้ ด้วยการพูดคุยกับผู้ให้บริการเพื่อขอยกเว้นการจ่ายเงินชั่วคราว
ค่อยๆ ใช้หนี้ ไม่ต้องทุ่มสุดตัว
แม้ว่าการไม่มีหนี้ จะเป็นเรื่องดีที่สุด แต่หากในช่วงเวลานี้คุณมีหนี้ที่ต้องจ่ายจำนวนมาก ไม่ว่าจะหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หรือแม้แต่หนี้บัตรเครดิต แทนที่จะทุ่มสุดตัวนำเงินที่มีไปจ่ายหนี้ทั้งหมด ควรเปลี่ยนเป็นจ่ายหนี้ตามขั้นต่ำที่เจ้าหนี้กำหนดแทน เพื่อนำเงินที่เหลือมาใช้จ่ายในสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันมากกว่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าหยุดจ่ายหนี้โดยเด็ดขาด พยายามรักษาเครดิตของตัวเองไว้จะเป็นเรื่องดีที่สุด
เก็บออมเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ถ้าคุณได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ก็จริง แม้รายรับจะลดลงแต่ยังพอมีรายรับเข้ามาอยู่บ้าง สิ่งที่ควรทำคือ การเก็บออมเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหลายๆ คนแนะนำว่าให้เก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ให้พอสำหรับระยะเวลา 6 เดือน โดยเงินจำนวนนี้จะต้องครอบคลุมเงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เงินค่าเช่าที่อยู่อาศัย รวมถึงค่าอาหารด้วย
คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 น้อย หรือไม่ได้รับผลกระทบเลย
หากคุณเป็นคนมีงานมั่นคง มีรายรับอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เลย หรือได้รับผลกระทบน้อย ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่คุณสามารถบริหารจัดการสร้างพื้นฐานทางการเงินของคุณให้ดีขึ้นได้ โดยมีข้อแนะนำ 3 ข้อดังนี้
ดอกเบี้ยลด ถึงเวลาใช้หนี้
ในช่วงเวลานี้หลายๆ ธนาคารเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กันแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก ซึ่งกลายเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 สามารถใช้โอกาสนี้ใช้หนี้ให้หมดเร็วขึ้นได้ เนื่องจากเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้คุณจ่ายเงินกลายเป็นเงินต้นมากขึ้น
ถึงเวลาเริ่มลงทุน
หากคุณเป็นคนที่ไม่มีหนี้ หรือได้ใช้หนี้ไปแล้วบางส่วน ช่วงเวลานี้อาจกลายเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนก็ได้ โดยอาจตั้งเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว เช่นการลงทุนเพื่อออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณอายุ โดยเฉพาะคนที่ยังมีอายุไม่มาก การเริ่มออมเงินเร็ว ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความได้เปรียบเหนือคนอื่น เพราะมีเวลาให้ลองผิดลองถูก และผลตอบแทนอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต
รวมถึงการซื้อหุ้น หรือกองทุนบางอย่างอาจได้มาในราคาต่อหน่วยที่ถูกกว่า ในอนาคตข้างหน้าหากเศรษฐกิจดีขึ้น จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นตามไปด้วย
หยุดคิดสักนิดก่อนใช้จ่าย
แม้ว่าคนในกลุ่มนี้อาจไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เลย หรือได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย จนอาจไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่การใช้จ่ายอย่างระมัดระวังก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเช่นกัน โดยเฉพาะการตัดสินใจทรัพย์สินที่มีราคาแพง เช่นบ้าน และรถยนต์ เพราะสถานการณ์ในช่วงนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง วันนี้คุณอาจยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่วันข้างหน้าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้
โดยเฉพาะการซื้อบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีราคาแพง แม้ช่วงนี้จะดูเหมือนว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีราคาลดลง หากคุณตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้ เพราะคิดว่าได้ราคาที่ดีที่สุดแล้ว ในอนาคตอันใกล้ราคาอาจลดลงอีกก็เป็นได้
ที่มา – cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา