โควิดทำคนเหงา ยอดรับอุปการะสัตว์เลี้ยงจากสถานสงเคราะห์ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 90%

ความเหงา คือสิ่งที่ใครหลายคนพบเจอโดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบนี้ เราไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน พบปะเพื่อนได้อย่างปกติ การอยู่คนเดียวโดยไม่ได้คุยกับใคร กลายเป็นปัญหาอย่างหนึ่งในชีวิต

ความเหงาที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดกระแสความนิยมรับอุปการะสัตว์เลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์จำนวนมาก ในประเทศสหรัฐอเมริกา

Ginnie Baumann Robilotta รองผู้อำนวยการสถานสงเคราะห์สัตว์ในรัฐ New Orleans เล่าว่า ช่วงนี้มีคนสนใจรับอุปการะสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก จนมีสัตว์เลี้ยงที่เหลืออยู่น้อยกว่าความต้องการอุปการะแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม ถึง 5 เมษายน มีผู้รับอุปการะสุนัขไปกว่า 42 ตัว และแมวอีก 14 ตัว

เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผู้รับอุปการะสุนัขไป 27 ตัว และแมวอีก 6 ตัว ซึ่งจำนวนการรับอุปการะสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น เกิดจากสถานการณ์ปัจจุบัน และสัตว์เลี้ยงกลายเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของคนให้ดีขึ้นได้

ในขณะเดียวกันสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงทั่วสหรัฐอเมริกาเห็นตรงกันว่า ในช่วงนี้ความต้องการรับอุปการะสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นกว่า 90% เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บังคับให้คนต้องอยู่แต่ในบ้าน ทำงานจากที่บ้าน ไม่ได้ออกไปข้างนอก จนเกิดเป็นความเหงา เพราะไม่ได้เข้าสังคม ซึ่งสัตว์เลี้ยงจะกลายเป็นเพื่อนคลายความเหงาให้กับคนได้เป็นอย่างดี

ซึ่งกระแสการอุปการะรับสัตว์เลี้ยงในช่วงนี้เป็นผลดีสำหรับสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยง เพราะสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน การที่มีคนอุปการะสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก จะช่วยให้สถานสงเคราะห์ให้ความสนใจกับสัตว์เลี้ยงที่เหลืออยู่ได้ดีกว่า เพราะในช่วงนี้ก็มีสัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้งเพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเช่นกัน

แต่หลายฝ่ายยังมีความกังวลว่ากระแสการเลี้ยงสัตว์ จะเป็นเพียงความนิยมชั่วคราวเมื่อสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นจะมีคนทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงที่อุปการะมาหรือไม่ แต่สถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงหลายแห่งคิดว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคนที่มารับอุปการะต้องมีจิตใจดี และรักสัตว์เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงเองต้องมีการพูดคุยคัดกรองในเบื้องต้น รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ก่อนอยู่แล้ว จึงคาดว่าไม่น่ามีปัญหาทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงในภายหลังแต่อย่างใด

ที่มา – TIME

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา