คนที่ว่างงาน ตกงาน ไม่มีเงิน ขาดรายได้ ก็สามารถนำถุงไปใส่ข้าวสารแจกฟรีจากตู้ ATM ข้าวได้ (rice ATM)
ผู้ประกอบการชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ ประดิษฐ์ตู้แจกข้าวอัตโนมัติ ผู้คนที่ลำบาก ไม่มีเงินพอจะซื้อข้าวสารกรอกหม้อ ก็สามารถหยิบถุงมารับข้าวสารตามตู้ ATM ข้าวได้ สามารถกดข้าวสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง
Vietnam just invented a new kind of ATM: it's rice ATM.
Peole just push the button and 1 kg of rice runs out. pic.twitter.com/WxQd8sDd2n— Erkin Öncan (@ErkinOncan) April 13, 2020
เวียดนามมีผู้ติดเชื้อรวม 262 ราย ไม่มีคนเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว กำลังใช้มาตรการเว้นระยะห่างจากสังคมเป็นเวลา 15 วัน (เริ่มทำตั้งแต่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา) หลายๆ บริษัทต้องหยุดชะงัก หลายบริษัทต้องปลดพนักงานจากงานที่ทำเพราะแบกรับภาระไม่ไหว
Nguyen Thi Ly สามีของเธอก็ตกงานเหมือนกับคนอื่นๆ เธอเป็นคุณแม่ลูกสาม วัย 34 ปี เล่าว่า “ตู้ ATM ข้าวนี่มีประโยชน์มากเลย ข้าว 1 ถุงก็เพียงพอแล้วสำหรับ 1 วัน ตอนนี้เราต้องการอาหารอย่างอื่นบ้าง เพื่อนบ้านเราบางครั้งก็เอาอาหารที่เขาทานเหลือมาให้เราทานต่อ บางครั้งเราก็ต้องพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ้าง”
Ly กล่าวว่า “ฉันอ่านข่าวเกี่ยวกับตู้ ATM ข้าว ฉันลองมาเช็คดู ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีจริงๆ ฉันหวังว่าสปอนเซอร์จะช่วยทำเช่นนี้ต่อไปจนกว่าโรคระบาดจะหมดไป” ปัญหาเรื่องข้าว เรื่องอาหารเป็นปัญหาใหญ่ไม่แพ้เรื่องค่าเช่าบ้านที่เธอต้องจ่ายเลย
Dang Cong Mao คนขายลอตเตอรี่ กล่าวว่า เขามาที่นี่ก็เพราะหวังว่าจะเอาข้าวสารไปเลี้ยงดูครอบครัวในช่วงที่มีโรคระบาดนี้ เขาขายลอตเตอรี่ไม่ได้ เขาก็ขาดรายได้
ขณะที่ Tran Thi Hoa คนขาย Rice Paper Salad หรือ แบ๋ง จ๋าง โจ่น (เหมือนยำวุ้นเส้น แต่เป็นแผ่นแป้งเอามาตัดและยำอีกที) เธอบอกว่า เธอขายอาหารชนิดนี้ แต่ขายไม่ค่อยดี เพราะไม่มีคนซื้อ เธอบอกเธอมีความสุขมากที่มีโครงการแบบนี้เกิดขึ้น ช่วงเวลานี้มันลำบากจริงๆ
ตู้ ATM ข้าวนี้ จัดไว้เพื่อให้ผู้คนที่หาเลี้ยงตัวเองได้ลำบากในช่วงที่โรคระบาดกระจายไปทั่ว Hoang Tuan Anh นักธุรกิจบริษัทที่ทำเกี่ยวกับระบบล็อคอิเลคทรอนิกส์ วัย 35 ปี ผู้เป็นเจ้าของแนวคิดนี้ได้ติดตั้งตู้ ATM ข้าวทั่วเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นฮานอย เว้ ดานัง เขาบอกว่า เขาอยากให้คนรู้สึกว่ายังสามารถเข้าถึงอาหารได้อยู่ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตลำบากก็ตาม
Tuan Anh ใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วในโกดังสินค้าของเขา ประดิษฐ์ตู้ ATM พร้อมกับผู้ช่วยอีก 3 คน ทำตู้ ATM ข้าวสร้างเสร็จภายในวันเดียว เขาบอกว่ามันเร่งด่วนมาก เขาไม่มีเวลาประดิษฐ์มันมากนัก เครื่องนี้มีกล้องจับหน้าคน และมีการควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ราคาต้นทุนอยู่ที่ 10 ล้านดงเวียดนาม หรือ 425 เหรียญสหรัฐ (13,989 บาท) เมื่อใครต้องการรับข้าวสารไป กล้องจะจับภาพคนนั้น จากนั้นจะเครื่องจะเปิดให้นำข้าวสารออกไปได้ราว 1.5 กิโลกรัม
Tuan Anh จ้างพนักงานมา 3 คนเพื่อคอยดูกล้อง และกดปิดเครื่องผ่านแอปฯ หากกล้องจับภาพได้ว่ามีคนมารับข้าวสารซ้ำเป็นครั้งที่สองในวันเดียวกัน Tuan บอกว่า เขาต้องการทำให้มั่นใจว่า ข้าวสารจะเพียงพอต่อคนอื่นๆ ที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ เขายังติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย และยังทำเครื่องหมายให้คนยืนห่างตามมาตรการ social distancing ด้วย คนที่จะมากดเอาข้าวสารออกจากตู้ จะต้องใช้เจลล้างมือทำความสะอาดทุกครั้งก่อนใช้งาน
ตู้ ATM ข้าวสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้คนมารวมตัวเยอะมากไป ตู้ ATM ข้าวนี้บรรจุข้าวได้ราว 500 กิโลกรัม และจะแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ทุกครั้งหากข้าวสารใกล้หมด
To prevent greedy people from coming and taking the free rice many times a day, now everyone have to write down their names before getting it.
People with nice motorbikes are also not allowed to take any rice.
This is to protect real poor people and stop wealthy greedy ones. pic.twitter.com/nzpiMrgIra— DoTheImpossible?Luna (@LunaOi_VN) April 11, 2020
Tuan ตั้งใจจะแจกข้าวอยู่ที่ 500 กิโลกรัมต่อวัน แต่ความเป็นจริง มีคนมากดข้าวสารไปราว 1 ตันตั้งแต่วันแรก และตอนนี้เพิ่มเป็น 4-5 ตันต่อวัน หลายๆ คน และหลายๆ องค์กรก็ร่วมบริจาคข้าวสาร อย่างน้อย 10 – 100 กิโลกรัมเพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ทรงคุณค่า มีความหมายและมีประโยชน์ต่อผู้คนจริงๆ
Tuan กล่าวว่า เขาตั้งใจจะแจกข้าวสารไปอย่างนี้ จนกว่าโรคระบาดโควิด-19 จะหมดไป เขาวางแผนไว้ว่า จะติดตั้งตู้ ATM ข้าวอีก 100 เครื่องทั่วประเทศ ทุกจังหวัด เพื่อช่วยเหลือคนที่จำเป็นต้องใช้มันจริงๆ เขาบอกว่าข้าวในเวียดนามกำลังขาดแคลนตั้งแต่ช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดในระยะกลาง (เริ่มระบาดปลายเดือนมกราคม) เขาหวังว่า ชุมชนต่างๆ จะร่วมมือกับเขาในการให้ความช่วยเหลือเขาเพื่อทำโครงการนี้สำเร็จได้
ที่มา – World Economic Forum, The Asian, USA NEWS, Vietnam Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา