ตลาดหุ้นนิวยอร์กพักการซื้อขายชั่วคราว เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้แล้ว หลังจากเกิดความกังวลในการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กระจายไปทั่วโลกแล้วในขณะนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพักการซื้อขายชั่วคราวเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้เป็นเวลา 15 นาทีหลังจากเปิดการซื้อขาย หลังจากที่ดัชนี S&P 500 ตกลง 7% หลังจากสาเหตุที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศแบนไม่ให้ชาวยุโรปจากประเทศต่างๆ ยกเว้น สหราชอาณาจักร เดินทางมาสหรัฐได้เป็นเวลา 30 วัน นอกจากนี้ยังมีความกังวลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่แย่กว่าคาด
- ครั้งที่ 4 ประวัติศาสตร์หุ้นไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ หยุดพักซื้อขาย อินโดฯ ฟิลิปปินส์ก็โดนด้วย
- Fed ประกาศลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ป้องกันเศรษฐกิจสหรัฐจากผลกระทบของ COVID-19
- ดัชนีภาคการผลิตจีนเดือนกุมภาพันธ์ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2004 ผลกระทบไวรัส COVID-19
สำหรับการพักการซื้อขายชั่วคราวหรือ Circuit Breaker ของสหรัฐ จะใช้ใน 3 กรณี คือ
- หากดัชนี S&P 500 ลดลงไป 7% ระงับการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที
- หากดัชนี S&P 500 ลดลงไป 13% ระงับการซื้อขายต่อไปอีก 15 นาที
- หากดัชนี S&P 500 ลดลงไป 20% จะมีการระงับการซื้อขายตลอดทั้งวัน
แม้ว่าจะมีการประกาศพักการซื้อขายไปแล้ว ดัชนี S&P 500 ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ 2,507.35 จุด ลดลงไป 234.03 จุด หรือลดลงไป 8.46% โดยความกังวลเพิ่มมากขึ้นหลังจากกิจกรรมต่างๆ ทางเศรษฐกิจเริ่มแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของการแพร่กระจาย COVID-19 นั้นกระจายอย่างเป็นวงกว้างแล้ว
นอกจากนี้ผลที่เกิดขึ้นจากดัชนี S&P 500 ที่ลดลง ล่าสุด S&P 500 ได้ตกลงมาจากจุดสูงสุดแล้ว 25.5% ทำให้ตัวดัชนีเองนั้นเข้าสู่สภาวะตลาดหมีแล้ว โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาดัชนีตกลงมาทำให้ดัชนีหุ้นสหรัฐจบสภาวะตลาดกระทิงที่สร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนมานานถึง 11 ปีเลยทีเดียว
ล่าสุดนักลงทุนหรือประชาชนทั่วไปเริ่มรอดูท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าจะมีการออกมาตรการต่างๆ ในการป้องกัน รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อย่างไร เพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา