ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเยือนอู่ฮั่นครั้งแรกหลังจากโรคโควิด-19 ระบาดจากที่นี่เป็นพื้นที่แรก ถือเป็นการส่งสัญญาณให้โลกรู้ว่าจีนเริ่มคุมไวรัสอยู่ เพราะอู่ฮั่นถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่มีข่าวแพร่สะพัดว่าโรคโควิด-19 เริ่มต้นอุบัติจากที่นี่
หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนเริ่มเผยตัวเลขให้เห็นว่ามีคนติดเชื้อน้อยลงอย่างมาก มาตรการต่อไปที่จีนต้องทำคือหาทางป้องกันจีนจากการแพร่ระบาดของไวรัสจากนอกประเทศเข้าจีน พื้นที่เสี่ยงติดเชื้อหนักในปัจจุบันตอนนี้อยู่ที่อิหร่าน อิตาลี และเกาหลีใต้
President Xi Jinping on Tuesday visited residents who are quarantined in their homes in a community and frontline workers in Wuhan, the epicenter of the #COVID19 outbreak, following a stop at Huoshenshan Hospital. pic.twitter.com/C3J53vSWI8
— People's Daily, China (@PDChina) March 10, 2020
ก่อนหน้านี้ สี จิ้นผิง ไม่สามารถมาเยือนอู่ฮั่นได้ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดไวรัสได้ ซึ่ง Zhang Ming อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมินในปักกิ่งให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า การมาเยือนอู่ฮั่นของสี จิ้นผิงครั้งนี้ เหมือนกับจะประกาศชัยชนะให้โลกรู้ว่ากำลังจะป้องกันไวรัสระบาดได้แล้ว หลังจากที่จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมากในช่วงรับมือไวรัสระบาด ทั้งการนำเสนอข่าวไปจนถึงการใช้มาตรการเด็ดขาดทั้งการปิดเมืองอู่ฮั่นและหูเป่ยและบริเวณใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส
สำนักข่าวจีนระบุว่า การเยือนของจีนนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด้านทหาร ทหาร ตำรวจ คนงาน อาสาสมัครในการรับมือกับไวรัสระบาด
In video: President Xi Jinping on Tuesday visited patients and medics at Huoshenshan Hospital after arriving in Wuhan, the epicenter of the #COVID19 outbreak. pic.twitter.com/CtPYwx6EQl
— People's Daily, China (@PDChina) March 10, 2020
สี จิ้นผิงเพิ่งจะเยือนอู่ฮั่นเมื่อเช้าที่ผ่านมา และยังเยือน Huoshenshan ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ไวรัสระบาด เป็นโรงพยาบาลที่เรียกเสียงฮือฮาจากโลกมากเพราะตั้งขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 10 วัน คือ 23 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ และเปิดให้ใช้งานเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจีนรายงานครั้งแรกว่า ผู้ติดเชื้อในอู่ฮั่นมีผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 19 รายเท่านั้น ซึ่ง 17 คนนี้อยู่ในอู่ฮั่น นอกจากนี้ ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณให้ฝ่ายการผลิตเริ่มกลับมาทำงานได้แล้ว นอกจากนี้ สี จิ้นผิงยังไม่เคยปรากฎตัวให้เห็นในที่สาธารณะอีกเลยตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา
ที่มา – Nikkei Asian Review, Quartz
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา