ประเทศไทย มีผู้ใช้งาน LINE เป็นจำนวนมากถึง 45 ล้านราย และยังใช้เวลาอยู่ใน LINE เฉลี่ย 67 นาทีต่อวัน LINE พัฒนาบริการหลากหลายประเภทเพื่อให้ผู้คนใช้งานได้ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน
เราสามารถใช้บริการ LINE ได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไล่มาตั้งแต่คุยกับเพื่อน ดูซีรีย์ อ่านข่าว เรียกรถ สั่งอาหาร ชอปปิง ไปจนถึงขายสินค้า
ลูกเล่นของ LINE ทำให้คนหันมาใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าถ้าจะเอาไว้ใช้งานเพื่อเข้าถึงลูกค้า LINE ถือว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิตในหลายๆ ด้าน และยังง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย
จากงานสัมมนา LINE for Business Day เหตุผลที่ทุกคนต้องมี LINE Official Account เมื่อกลางเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า LINE เดินหน้าเต็มขั้น สนับสนุนให้ SME สามารถเข้าถึงลูกค้าบน LINE ได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยได้เผยช่องทางการเข้าถึงลูกค้า การทำการค้า LINE หรือที่เรียกว่า Chat Commerce ซึ่งมีอย่างหลากหลาย แต่ตัวหลักๆ สำคัญที่เห็นจะมองข้ามไปไม่ได้เลยตามชื่องาน นั่นก็คือ LINE Official Account และเครื่องมือช่วยปิดการขายใหม่ล่าสุดจาก LINE ก็คือ MyShop
LINE for Business เหตุผลที่ทุกคนต้องมี LINE Official Account
โซอี้ ภญ. โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ LINE Certified Coach พูดถึงประเด็นสำคัญของการมี LINE Official Account ว่า มันสามารถสร้างได้ Brand Awareness ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์สินค้าของเรา สร้างได้ Brand Knowledge ให้ลูกค้ามีความรู้ว่าสินค้าของเราเป็นอย่างไร มีคุณสมบัติอะไร
นอกจากนี้ เราต้องรู้จักที่จะสร้าง Brand Like เพื่อทำให้เขาชอบแบรนด์ของเรา เขาจะซื้อสินค้าเรา และเขาจะซื้อซ้ำ และยังสามารถสร้าง Brand Love คือรักในแบรนด์ของเรา ทำให้เขารักเรา ซื้อสินค้า ซื้อซ้ำ และบอกต่อด้วย สุดท้าย ให้จบลงที่ Brand Passion ทำให้ลูกค้าหลงรัก ทำให้เขาซื้อ ซื้อซ้ำ บอกต่อ และปกป้องแบรนด์ด้วย
หนึ่ง เทคนิคการสร้าง Brand Awareness โดยใช้ LINE Official Account ซึ่งเราจะได้ ID แบบสุ่มมา มันอาจจะใช้ชื่อนี้ให้เราเป็น @line98309 เราก็ต้องเปลี่ยนให้ดูดีขึ้นเป็น Premium ID เช่น @linecafe เพราะการใช้ LINE ID ที่สุ่มมาไม่ทำให้ลูกค้าจดจำเรา เรายังจำเองไม่ได้เลย
โดยราคาของ Premium ID ใน LINE Official Account แบบใหม่นี้ก็อยู่ที่ 444 บาทต่อปี หรือตกเดือนละ 37 บาท เท่านั้นเอง
นอกจากนี้ เราก็ควรทำ QR Code เพื่อให้คนสแกนมาติดตามเรา ที่แคชเชียร์ต้องมีเลย 1 ตำแหน่ง เพื่อส่งโปรโมชั่นและคูปองไปให้ และเวลาที่เราบรอดแคสต์หรือการส่งข้อมูลให้ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นการเลือกส่งข้อมูล ภาพประกอบ รวมถึงคูปองส่วนลดต่างๆ แล้ว อย่าลืมที่จะเอาข้อความดังกล่าวมาแชร์ใน Timeline ด้วยคนจะได้ตามได้ แชร์ๆ ต่อๆ กันได้
สอง Greeting Message ใช้เพื่อแจกคูปองลดราคาต่างๆ สามารถส่งได้สูงสุดถึง 5 บอลลูน มีอะไรดีต้องขายตั้งแต่จุดนี้ แจกคูปองตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูกค้าเพิ่ม Official Account เราเป็นเพื่อนเลย เช่น เพิ่มเพื่อนรับคูปอง 100 บาท เมื่อทานอาหารขั้นต่ำครบ 500 บาท โดยหัวใจของการทำ balloon message คือประโยคแรกของข้อความสุดท้าย
เราไม่จำเป็นต้องบรอดแคสต์ถี่ เพราะจะสร้างความรำคาญให้ลูกค้าได้ อาจทำให้เราโดนลูกค้าบล็อคตั้งแต่ยังไม่ได้ซื้อสินค้าเลย วิธีที่แนะนำคือให้ใช้ Rich Menu ดีกว่า ซึ่งจุดนี้ทำให้เราใส่ข้อมูลได้ครบทั้งรายละเอียดสินค้า ภาพสินค้า แนบลิงก์สินค้าต้นทางที่เชื่อมไปยังหน้าไทม์ไลน์ใน LINE Official Account ของเราได้
สาม Brand Love คือการเชื่อมต่อกับลูกค้า เช่น การทำ card message ส่งเป็น box มันยาวต่อกันได้ถึง 9 card ส่งข้อความได้ถึง 3 balloon เช่น การขายกระเป๋า 5 สี 4 ไซส์ เราสามารถใส่รายละเอียดให้ลูกค้าได้พิจารณาเพื่อตัดสินใจซื้อได้
Rich Message ใช้ขนาดรูปภาพ 1,040 x 1,040 เมื่อเราบรอดคาสท์ออกไปสามารถฝังลิงก์ข้อมูลได้ 6 link สูงสุด ทำให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น
Rich VDO ปกติเสีย 6,800 บาทต่อเดือน แต่ถ้ามี LINE Official Account เราก็สามารถส่งได้ฟรี
SURVEY หรือแบบสำรวจ ถ้าเราอยากให้ลูกค้าช่วยตอบคำถาม เราจะได้ฟีดแบคเพื่อมาปรับปรุงบริการสินค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีที่ได้มีส่วนร่วม
สี่ Brand Passion (หรือการทำ CRM Customer Relation Management) เรา สามารถแจกคูปองได้ ต้องบอกให้เขารู้ว่าใช้ได้ภายในวันไหน เทคนิคกระตุ้นคือการบีบด้วยเวลา สั่งซื้อเท่านั้น เท่านี้ ภายในระยะเวลาที่จำกัด สามารถสะสมแต้มได้ เพื่อให้เขาซื้อซ้ำ ทำแค่ 8-10 แต้มพอ อย่าให้ถึง 50 แต้มมันเยอะไป
นอกจากนี้ การบรอดแคสต์มี 3 ประเภท สำหรับเพื่อนทั้งหมด สำหรับระบุคุณสมบัติได้ เช่น คนภาคไหน เพศไหน อายุ เราเลือกได้ว่าเราจะให้คนตามปัจจัยที่เรากำหนดสามารถดูบรอดคาสท์ของเราได้ ก็ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น และ สำหรับกำหนดจำนวนผู้ที่ได้รับได้ด้วย
MyShop เครื่องมือใหม่ช่วยปิดการขายผ่าน LINE Official Account ครบจบในที่เดียว
ไฮไลท์สำคัญของงานนี้คงหนีไม่พ้น MyShop เครื่องมือใหม่จาก LINE ที่ออกมา เปรียบเสมือน One Stop Solution ช่วยทำให้ LINE Official Account มีประสิทธิภาพในการทำการค้าขาย ปิดการขายได้ดี ครบวงจรยิ่งขึ้น หรือเรียกได้ว่าตอบโจทย์การซื้อขายจบได้ที่ LINE ได้เลยที่เดียว MyShop
หลายครั้งที่การพูดคุยกับลูกค้า หรือการค้าขายในแชท LINE ทำให้เราต้องเข้าๆ ออกๆ แอคเคาท์ LINE บ่อยๆ เพราะเดี๋ยวเราต้องไปเช็คสินค้าในร้านว่ามีไหม เหลือค้างอยู่ในสต็อกรึเปล่า เดี๋ยวก็ต้องเข้าสู่เว็บไซต์สินค้า เลือกสินค้าให้ลูกค้าดู และก็ออกไปเช็คจำนวน เช็คสี เช็คคุณสมบัติสินค้าทั้งหมด ทำให้การซื้อขายไม่ค่อยราบรื่น
ดังนั้น MyShop ถือว่าเป็นเครื่องมือที่จะมาเชื่อมต่อกับ LINE Official Account มาแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการซื้อขายผ่าน LINE ได้ เพราะ MyShop จะมีระบบจัดการหน้าร้าน หลังร้านที่เป็นระเบียบมากขึ้น ทั้งการเช็คสต๊อกสินค้า การออกใบสรุปออเดอร์ให้ลูกค้าผ่าน LINE ได้เลย หรือทำลิงก์ URL ไปแปะตามสื่อออฟไลน์ ออนไลน์ได้ ทำให้ประหยัดเวลา ลดแรงงาน ลดต้นทุนได้มากขึ้น ทำให้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีระบบการชำระเงินที่หลากหลาย ลูกค้าสามารถจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้ ผ่าน Rabbit LINE Pay ได้ หรือจะโอนเงินเพื่อชำระเงินก็ง่ายไปหมด มันช่วยให้ปิดการขายได้เร็วขึ้น
แชร์เคล็ดลับทำอย่างไรจึงประสบความสำเร็จ
ในงาน LINE for Business Day เหตุผลที่ทุกคนต้องมี LINE Official Account ครั้งนี้ ยังได้เชิญลูกค้าที่ทดลองใช้บริการ เครื่องมือ MyShop ที่กำลังจะเปิดบริการให้ใช้อย่างเต็มรูปแบบเร็วๆ นี้ ได้มาแชร์ประสบการณ์หลังการใช้งานไว้ด้วย
โดย ณัฐพงศ์ นาคทอง Co-Founder แห่ง Skin Lab เป็นผู้นำเข้าสินค้าสกินแคร์จากต่างประเทศ ได้ยกตัวอย่างสินค้าที่ขายดี เช่น เซรั่ม ราคาพรีเมียม 5,000 บาท ขนาด 30 ml ณัฐพงศ์บอกว่า ผู้ขายต้องเข้าใจว่า ตลาดเป็นยังไง โดย ตัวเองเป็นคนรีวิวสินค้าเอง ก็ทำให้เข้าใจคุณสมบัติของสินค้าได้ดี
นอกจากนี้ ณัฐพงศ์ยังเล่าถึงวิธีปรับตัวของธุรกิจตัวเองว่า ต้องปรับตัวตลอดเวลา ต้องพยายามเรียนรู้ feature อัพเดทใหม่ๆ ใน LINE อยู่เสมอ เพื่อจะได้คุ้นชิน และทำให้เราได้เปรียบกว่าใคร ยิ่งเรารู้จักการใช้งานแพลตฟอร์มที่เรากำลังทำธุรกิจ เราใช้เป็น เราก็ขายของได้เพิ่มมากขึ้น
เขามองว่าการลดราคาไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เราสามารถได้ยอดและลูกค้าก็มาซื้อถ้าเราสร้าง story เป็น เขายังลองใช้ Rich Message ที่เมื่อก่อนต้องเสียเงิน ใช้ ตอนนี้ใครๆ ก็ส่งฟรี ก็รู้สึกว่าว้าวมากเพราะส่งภาพได้ ทำให้คิดภาพ คิด story ต่างๆ ได้สร้างสรรค์มากขึ้น
แขกรับเชิญอีกคนคือ เพาพะงา สิทธิคู Co-founder/ Business Development, Fitcraze เล่าถึงสินค้าส่วนใหญ่ราคา 2,000 กว่า 3,000 กว่าขึ้นไป เธอก็กำหนดชื่อและเรื่องราวของแบรนด์ให้ดูสตรอง น่าสนใจ (fit+crazy) เธอขายชุดออกกำลังกายที่ทำให้คนอยากเข้ามาซื้อหาใส่เพื่อที่จะหันมาออกกำลังกาย รักสุขภาพกันมากขึ้น
ตอนแรก เธอบอกว่า เธอก็กลัวการใช้งาน LINE Official Account เหมือนกัน แต่ก็พยายามดูว่าเพราะอะไรเขาถึงเปลี่ยนจาก LINE@ มาเป็น LINE Official Account ซึ่งก็ทำให้เราได้รู้ว่าเราจะได้ประโยชน์อะไรเพิ่มเติม ที่สำคัญเราได้เรียนรู้ก่อนคนอื่น
เธอบอกว่า เธอลองใช้ Rich Message แล้ว มันทำให้คนขายสินค้าใน LINE ดูดีมากขึ้น เพราะเราส่งได้มากกว่าข้อความอย่างเดียว เพราะคนซื้อมาอ่านและกดเข้าดูเว็บไซต์ได้เลย
ขณะที่ MyShop สามารถทำให้ลูกค้ากดซื้อสินค้าได้เองเลยโดยที่ยังไม่ทันได้คุย ระบบทำให้การค้าขายราบรื่นมากขึ้น สามารถซื้อขายได้ภายในพื้นที่เดียว ไม่ต้องคอยเข้าออก LINE บ่อยๆ แบบเมื่อก่อน ซึ่งก็ต้องบอกว่าลดแรงได้เยอะในการซื้อขาย เพราะระบบจัดการให้หมดแล้ว ทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะขาดสต็อกไหม หลังบ้านจะมีของหรือเปล่า ก็ถือว่า MyShop ช่วยมาตอบโจทย์การซื้อขายใน LINE ได้มากขึ้น
ถือว่าช่วยทำปิดการขายได้เร็วมากขึ้น ซึ่งคุณโซอี้ LINE Certified Coach ก็เสริมข้อมูลด้วยว่า MyShop นี้ เราสามารถใส่สินค้าได้มากถึง 5,000 รายการ ออกบิลออนไลน์ได้ด้วย ก็คือว่าตอบโจทย์ธุรกิจ Social Commerce ได้มาก
ช่องทางให้ลูกค้าบน LINE รู้จักแบรนด์คุณกับ LINE Ads Platform
โดยธรรมรัตน์ บัณฑิตบุญดี Assistant Manager of Agency Relationship & Development, LINE ประเทศไทย พูดประเด็น LINE Ads Platform หรือ LAP ไว้น่าสนใจว่า LAP คือแพลตฟอร์มการซื้อโฆษณาในตำแหน่งต่างๆ ที่อยู่ในแอปพลิเคชัน LINE
ไม่ว่าจะเป็นใน LINE Chat พื้นที่สำหรับพูดคุย ในไทม์ไลน์ของ LINE ที่เป็นพื้นที่ให้เราพูด แสดงความคิดเห็นหรือประกาศแจ้งข่าวให้เพื่อนใน LINE รับรู้ ไปจนถึง LINE Today ที่เป็นพื้นที่ข่าวสาร ดูหนัง ชอปปิ้ง ก็สามารถใช้เป็นจุดโฆษณาสินค้าได้
การโฆษณาในพื้นที่ต่างๆ นี้ จะมีขนาดที่แตกต่างตามความต้องการ ตามเป้าหมายของแบรนด์ ตามรูปแบบของสินค้า
ลูกค้าสามารถเลือกเป้าหมายในการโฆษณาได้หลากหลาย ทั้งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก หรือการสร้าง Brand Awareness การสร้างยอดขายให้กับช่องทางออนไลน์ การโปรโมตแอปพลิเคชันใหม่ๆ และทำให้ลูกค้ากลุ่มเดิมได้เห็นโฆษณาอีกครั้ง (Re-target existing customers)
พื้นที่การโฆษณาในไทม์ไลน์ ในแชท หรือไลน์ทูเดย์นี้ จะมีทั้งที่เป็นขนาดสี่เหลี่ยมจตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีทั้งในรูปแบบคลิปวิดีโอและภาพนิ่ง
LAP สามารถกำหนดพื้นที่ได้ทั้งตามจังหวัด ทั้งเขต อำเภอ และตามพื้นที่ที่ต้องการ สามารถกำหนดเพศได้ด้วย กำหนดอายุ กำหนด device ที่ต้องการให้ลูกค้าเห็นโฆษณาตามงบประมาณตามช่วงเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ LAP ยังช่วยให้ลูกค้า หรือแบรนด์เลือกเป้าหมายได้ละเอียดมากขึ้น รวมถึงคนที่บล็อค หรือคนที่กำลังติดตาม LINE Official Account เราให้กลับมาเห็นโฆษณาได้อีก
รวมถึงคนที่เห็นข้อความที่ส่งไปแล้ว และคนที่คลิกข้อความเมื่อเห็นโฆษณาได้ด้วย ซึ่งก็มีการคิดเงิน 3 รูปแบบ คือ CPM (Cost per mile), CPC (Cost per click) และ CPF (cost per friends) ถือเป็นการ cross กันระหว่าง Line Official Account x Line Ads platform
#LINEforBusinessDay #LINEOA #MyShop
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา